สวัสดีค่ะ นี่คือบันทึกการเดินทางทริปเกาะล้านวันที่ 2 ของเราค่ะ
ส่วนใครที่ยังไม่ได้อ่านของวันที่ 1 และอยากอ่านของวันที่ 1 ก่อน เชิญทางนี้เลยค่ะ
เราตื่นประมาณเกือบๆ 7 โมงเช้า ออกไปดูทะเลตรงระเบียง พบว่ามีคนออกมาเล่นน้ำกันพอสมควร เราเลยลงไปเดินเล่นดูทะเลยามเช้า และถ่ายรูปเล่นค่ะ
ดูเหมือนหาดตาแหวนจะไม่ได้หันหน้าเข้าหาทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกโดยตรง เวลาดวงอาทิตย์ขึ้นหรือตก เราเลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์โผล่ขึ้นลงตรงน้ำค่ะ อย่างตอนขึ้น ก็จะเห็นตอนโผล่พ้นทิวเขามาแล้วเท่านั้น
แดดตอน 7 โมงเช้ายังอ่อนอยู่ ยังไม่ร้อน ไม่แรง และดีต่อสุขภาพค่ะ เราถ่ายรูปเล่นอยู่พักนึงก็กลับขึ้นห้องไปเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำลงมาเล่นน้ำ ทิ้งสมบัติทุกอย่างไว้ที่ห้อง เลยไม่มีการถ่ายรูปใดๆ ในช่วงนี้ค่ะ
น้ำทะเลตอน 7 โมงเช้าเย็นสบายกำลังดี ไม่หนาว หรือเพราะมันเป็นช่วงหน้าร้อนปีเอลนินโญ่ด้วยก็ไม่รู้
น้ำที่หาดตาแหวนไม่ค่อยลึก เดินไปไกลแล้วก็ยังไม่ลึก แต่เรายังไปไม่ถึงจุดที่ลึก มันไกล และเราไม่อยากเสี่ยง เพราะเราก็ว่ายน้ำไม่เป็นด้วย แต่ดูจากคนอื่นที่ไปเล่นตรงนั้นมันก็ดูลึกอยู่ แต่ก็ยังอยู่ในเขตทุ่นนะคะ
หาดตาแหวนตอน 7 โมงเช้ายังคงสงบ คนที่มาเล่นน้ำน่าจะมีแค่คนที่พักอยู่แถวๆ หาด ส่วนใหญ่เป็นคนไทย และมากันเป็นครอบครัว เล่นกันเงียบๆ เสียงไม่ดังวุ่นวาย ใครจะถ่ายรูปก็ถ่ายได้ อาจจะติดคนบ้าง แต่จะไม่ติดจนเสียบรรยากาศ
เราเล่นน้ำอยู่จนถึงประมาณ 8 โมง ก็กลับขึ้นห้องไปอาบน้ำ แต่เกิดอยากเล่นมือถือขึ้นมาซะก่อน ตัวก็เปียก เลยออกไปนั่งเล่นที่เปลตรงระเบียง โอเค รู้ละว่าเปลนี้เอาไว้ใช้ในสถานการณ์ไหน
เวลาอาหารเช้าของที่พักจะอยู่ในช่วง 8 โมงเช้า ถึง 10 โมงเช้า เราลงไปประมาณ 9 โมงครึ่ง ยื่นบัตรอาหารเช้าให้ พนักงานจะเข้าครัวไปเตรียมอาหารเช้าจานหลักให้ ประกอบด้วยไข่ดาว 2 ฟอง ไส้กรอก 2 ชิ้น และผักสลัด
ส่วนที่โต๊ะบุฟเฟ่ต์จะมีข้าวต้ม ขนมปังให้ปิ้งเอง แยมทาขนมปัง เครื่องดื่มจำพวกชา กาแฟ โอวัลติน น้ำส้ม น้ำเปล่า ภาชนะและอุปกรณ์ทานอาหาร
ที่โต๊ะมีทิชชู่และเครื่องปรุงรส พวกซอส เกลือ พริกไทยให้ ส่วนขวดสีขาวๆ เป็นน้ำสลัดสำหรับราดผักในจานหลัก ไม่ใช่มายองเนส ด้วยความที่มาคนเดียว เราเลยเลือกนั่งเคาน์เตอร์ที่หันหน้าเข้าหาทะเลค่ะ
กินเสร็จก็กลับขึ้นห้อง เก็บข้าวของเตรียมเช็คเอาท์ตอน 11 โมงค่ะ
เวลาเช็คเอาท์ของที่พักคือ 11 โมง พอเอากุญแจไปคืนและแจ้งเช็คเอาท์ เขาจะเช็คห้องก่อน ถ้าห้องไม่มีปัญหาก็จะได้เงินมัดจำ 1,000 บาทคืนค่ะ
เรือจากหาดตาแหวนไปแหลมบาลีฮายออกบ่ายโมง ทางที่พักมีรถไปส่งท่าเรือหาดตาแหวนฟรี แต่เขาแนะนำให้ไปสักเที่ยงครึ่ง เพราะไปนั่งรอนานๆ ก็ร้อน โดยเราสามารถฝากกระเป๋าไว้ที่ที่พักและไปเที่ยวก่อนได้ค่ะ
เราตัดสินใจฝากกระเป๋าไว้แล้วออกไปเดินเล่นสำรวจหน้าหาด หาดตาแหวนเป็นหาดที่ยาวจริงๆ ค่ะ ช่วงกลางวันตั้งแต่สายๆ ไปจนถึงบ่ายแก่ๆ จะมีนักท่องเที่ยวแบบ One day trip มาจากพัทยา มาเป็นทัวร์บ้าง มากันเองบ้าง รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่พักอยู่โซนอื่นของเกาะก็เข้ามาเที่ยวกัน ทำให้หาดคึกคักและวุ่นวายมาก บนบกมีมอเตอร์ไซค์ ในทะเลมีสปีดโบ๊ท เจ็ทสกีวิ่งว่อนไปหมด ต่างจากช่วงเย็นถึงเช้าแบบลิบลับเลยค่ะ
เราเดินไปทางตะวันออกจนเกือบสุดทางก็ย้อนกลับ จริงๆ มีร้านที่อยากเข้าอยู่ แต่เรายังอิ่มจากอาหารเช้าที่เพิ่งกินแบบจัดเต็มมา เมื่อวานก็คลื่นไส้จนกินอะไรไม่ลง เลยต้องตัดใจค่ะ
เราเดินย้อนกลับไปทางตะวันตก เดินไปจนถึงทางแยกเข้าหาดที่เราคิดว่าน่าจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงนั้น แล้วก็มีจริง เราขอให้เขาพาขึ้นไปวัดกับจุดชมวิวที่อยู่ข้างบน ค่ารถไป-กลับเที่ยวละ 50 บาทค่ะ
ทางขึ้นเขาสูงและชัน พื้นเป็นอิฐบล็อครูปตัวหนอน ทำให้เราคิดถึงคอมเมนท์ของหลายๆ คนที่บอกว่า "เกาะล้านไม่ใช่ที่สำหรับมือใหม่หัดขับมอเตอร์ไซค์"
ขึ้นมาถึงตรงพระใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของสำนักสงฆ์เขาใหญ่ญาณวโรดมวราราม พี่วินถามว่าจะขึ้นไปข้างบนอีกมั้ย มีเจ้าแม่กวนอิมอยู่ ถ่ายรูปสวยเหมือนกัน แต่แค่นี้เราก็กลัวกับทางมามากพอแล้ว เลยตัดสินใจไม่ไปต่อ ขอพอแค่นี้ดีกว่าค่ะ
พี่วินขอกลับลงไปข้างล่างก่อน และให้เบอร์ไว้โทรตามถ้าจะกลับ เราจ่ายค่ารถ 50 บาท แล้วก็เดินดูรอบๆ
วิวหาดตาแหวนจากตรงพระใหญ่
พระพุทธรูปตรงศาลาแบบเปิดโล่ง
ร้านเช่าพระ เครื่องรางต่างๆ จุดรับบริจาคทำบุญ ดูแลโดยแม่ชี
เจดีย์
ตรงนี้เป็นลานธรรมค่ะ ข้างในมีพระพุทธรูป มองเข้าไปเห็นพระนั่งคุยกับญาติโยมอยู่ ได้ยินเสียงคุยแว่วมา เหมือนไม่ใช่การเทศน์ แต่เป็นการพูดคุยแบบสอดแทรกพระธรรมคำสอนเข้าไปด้วย
มีคนขึ้นมาเล่นพาราไกลดิ้งด้วยค่ะ เท่าที่สังเกตคือแบบนี้จะไม่มีมอเตอร์ ใช้ลมและอากาศพยุงร่ม ใช้มือขยับเชือกควบคุมร่มเพื่อปรับทิศทาง ดูไปดูมาก็เหมือนกำลังบินอยู่เลยค่ะ
เราโทรเรียกพี่วินขึ้นมารับ แล้วเดินไปไหว้พระใหญ่ระหว่างรอ พอเข้าไปใกล้ๆ ถึงได้รู้ว่าเขาเรียกว่าหลวงปู่ทวดค่ะ
และเราก็ขอให้พี่วินพาแวะจุดชมวิวระหว่างทางลงไปข้างล่างค่ะ
พี่วินใจดีเสนอช่วยถ่ายรูปให้เราด้วย แต่พอเรายื่นโทรศัพท์ให้เขา กล้องก็ดับเพราะความร้อนพอดี ตอนแรกว่าจะตัดใจ แต่นึกได้ว่ายังมีอีกแอปนึงที่เราใช้ถ่ายเซลฟี่ ลองเปิดดู ปรากฏว่ายังใช้ได้ เลยรีบถ่ายเซลฟี่รัวๆ ไป 3-4 รูป ก่อนที่จะใช้ไม่ได้ไปอีกแอป
จากนั้นก็กลับไปที่หาดตาแหวนค่ะ เราขอให้เขาเข้าไปส่งที่ที่พักเลย จะได้ไม่ต้องเดินไกล ถึงที่พักแล้วก็จ่ายค่ารถอีก 50 บาท เป็นอันจบทริปเล็กๆ ก่อนกลับค่ะ
กลับถึงที่พักตอนเที่ยงนิดๆ นั่งพักอยู่ตรงล็อบบี้ถึงประมาณเที่ยงสิบห้า เจ้าหน้าที่ฟรอนท์ก็ถามเราว่าจะไปเลยมั้ย แล้วก็เรียกคนขับรถไปส่งเราค่ะ
รถรับส่งของที่พักเป็นเหมือนมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง มีหลังคาและแต่งให้นั่งสบาย เราชอบที่มีช่องวางกระเป๋าด้วย ถ้าวางกระเป๋าลากตรงช่องนี้มันจะไม่ไหล ไม่ต้องคอยจับค่ะ
ท่าเรือหาดตาแหวนอยู่ห่างจากที่พักเราระดับนึงเลยค่ะ ถ้าเดินก็นานและเหนื่อยอยู่ เพราะขนาดนั่งรถยังรู้สึกว่านาน แต่อาจเพราะถนนหน้าหาดมันพลุกพล่านด้วย รถเลยต้องชะลอหรือจอดบ่อยๆ
ท่าเรือหาดตาแหวนทำสวยทีเดียวค่ะ ตอนกลางคืนจะเปิดไฟด้วย เสียดายที่เราไม่รู้ ตอนเดินไปซื้อของก็เกือบถึงแล้ว ตอนเดินเล่นที่หาดหน้าที่พักตอนกลางคืนก็เห็นซุ้มประดับไฟสวยๆ อยู่ไกลๆ ก็สงสัยอยู่ว่าคืออะไร พอมาเห็นท่าเรือคือรู้เลย เราจำได้ว่ามันรูปร่างอย่างงี้
เดินไปถึงก็เจอเรือจอดรออยู่แล้วค่ะ เป็นเรือไม้ลำใหญ่ ค่าโดยสาร 30 บาท ตอนนั้นประมาณเที่ยงครึ่ง มีคนเก็บค่าเรืออยู่ตรงทางลง จ่ายค่าเรือแล้วก็ลงไปขึ้นเรือได้เลย บนเรือจะมีห้องเก็บสัมภาระอยู่ ก็เอากระเป๋าเข้าไปไว้ในนั้นแล้วไปหาที่นั่ง เรือมี 2 ชั้น เราเลือกชั้นบน มีหลังคานะคะ
บนเรือมีคนนั่งอยู่เกือบเต็มแล้ว ที่นั่งที่อยู่รอบนอกที่โปร่งๆ หน่อยเต็มหมดแล้ว เราเลยต้องนั่งข้างใน ซึ่งร้อนมาก แล้วที่นั่งก็แปลกๆ เป็นไม้แผ่นเล็กๆ นั่งไม่เต็มก้น แผ่นไม้เอียงไปทางข้างหลัง ก้นมันจะหย่อนลงไป แล้วเท้าจะลอยไม่แตะพื้น ทั้งๆ ที่เราก็ขายาว แล้วระยะห่างจากแถวหน้าคือแคบมาก เป็นการนั่งเรือที่ทรมานมากค่ะ
เรือออกก่อนบ่ายโมง ประมาณเที่ยงห้าสิบก็ออกแล้ว และไปถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายประมาณบ่ายโมง 40 นาทีค่ะ
ลาก่อนเกาะล้าน
ท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยา ตอนขาไปเรายังมาไม่ถึงตรงขาวๆ นี้ สปีดโบ๊ทที่เรานั่งไปเกาะล้านถือว่าจอดค่อนข้างใกล้ฝั่งค่ะ
หลังจากถ่ายรูป แวะเปลี่ยนรองเท้าที่ศาลาพักผู้โดยสาร เราก็เดินไปที่ท่ารถของ T. Tour ค่ะ อยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือเลย ถ้าดูจาก Google Map จะเห็นอยู่ข้างๆ เซเว่น
ไปถึงที่ซื้อตั๋ว บอกเขาลง MRT จ่ายค่ารถ 160 บาท เขาจะให้บัตรคิวสีๆ มา แล้วบอกให้ไปนั่งรอก่อน รถมาเมื่อไหร่จะเรียก แต่ยังไม่ทันได้นั่ง เขาก็เรียกบัตรสีของเราขึ้นรถแล้วค่ะ รอบนี้ได้รถตู้ หลังจากทุกคนขึ้นรถ คนขับจัดการธุระต่างๆ เสร็จ รถก็ออกประมาณบ่ายสองสิบนาทีค่ะ
พัทยารถติดมาก รู้สึกว่าติดอยู่นานเหมือนกันกว่าจะหลุดออกไปได้ กรุงเทพรถยังไหลดีกว่านี้ บนรถขากลับรู้สึกคนหลับกันเกือบทั้งคัน ต่างจากขามาที่ไม่ค่อยมีใครหลับ แต่เราก็หลับ เพราะเราเมาง่าย เลยชิงหลับไปซะก่อนดีกว่า
รถมีแวะเติมแก๊สระหว่างทาง สามารถไปเข้าห้องน้ำและซื้ออะไรกินได้ และมาถึง MRT จตุจักรประมาณ 4 โมง 50 นาทีค่ะ เป็นอันจบทริป
ทริปนี้ถึงจะเป็นทริปสั้นๆ สั้นจนแอบรู้สึกว่าไม่คุ้มกับการขึ้นรถลงเรือ เพราะใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนานและเหนื่อย แต่ก็มีความสุขมากค่ะ มีเงินแค่นี้ก็เที่ยวแค่นี้ไปก่อน ฮ่าๆๆ
ถ้าอ่านมาเรื่อยๆ ตั้งแต่แรกจะเห็นว่ามันไม่ใช่ทริปประหยัด ที่พัก อาหาร การเดินทาง เราจัดเต็มเท่าที่งบเราเอื้ออำนวยเหมือนกัน ทั้งที่จริงๆ มันสามารถประหยัดกว่านี้ได้อีก อันนี้ก็สไตล์ใครสไตล์มัน ซึ่งเราชอบแบบนี้ เรายังอยากนอนที่พักสวยๆ สบายๆ กินอาหารดีๆ บรรยากาศดีๆ อยู่ค่ะ
สำหรับใครที่ไปเที่ยวคนเดียว เราแนะนำให้ลงทุนนอนที่พักติดหาดค่ะ มันอาจจะแพงหน่อย แต่เราสามารถทิ้งสมบัติไว้ในห้อง แล้วลงเล่นน้ำได้เลย ไม่ต้องเอาของไปวางทิ้งไว้ที่หาด แล้วมาคอยกังวลว่าจะหายมั้ย ส่วนกุญแจห้องสามารถฝากไว้ที่ฟรอนท์ได้ค่ะ
ขอจบโพสท์ทริปเกาะล้าน 2024 ไว้ ณ ตรงนี้ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ค่ะ 🙏✨