วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

ฝนนี้ ที่เชียงราย ::: #3 ม.แม่ฟ้าหลวง ในมุมมองของนักท่องเที่ยว

ออกจากบ้านดำมา ก็ไปมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกันต่อค่ะ เห็นว่าสวยมาก ก็เลยอยากลองไปดู คุณลุงแท็กซี่บอกว่าส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะไปที่หอจีนกัน ก็โอเคค่ะ ก็ลองไปดู




นี่คือหอจีนที่คุณลุงบอกค่ะ ชื่อจริงๆ คือ ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร สำหรับคนนอกต้องจ่ายค่าบำรุงสถานที่ 10 บาทด้วยค่ะ







แผ่นพับที่เราหยิบติดมาด้วย เป็นข้อมูลสถานที่และคอร์สเรียนภาษาจีนค่ะ



ข้างในสวยมากค่ะ แม้จะไม่ได้กว้างใหญ่นัก มีสระน้ำพุอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยอาคารต่างๆ สร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน



 







ห้องเรียน








วิวจากหน้าห้องเรียน




มุมนั่งเล่น







ห้องสมุด







วิวจากหน้าห้องสมุด










เดินเล่นถ่ายรูปจนหนำใจแล้วก็ออกมาค่ะ




ด้านหน้า ม. (มั้ง?) เป็นมุมที่สวยมากจริงๆ ค่ะ หน้าหนาวคงบรรยากาศดีมากเลย มีรถรับส่งภายในมหา'ลัยด้วย





เราไม่ได้สำรวจทั้ง ม. ไปแค่หอจีน ออกมาถ่ายรูปเล่นข้างหน้า แล้วก็ไปต่อค่ะ เท่าที่เราเห็น ที่นี่ดูเป็นมหา'ลัยที่ร่มรื่น สวยงาม บรรยากาศดี น่าเรียนมากทีเดียวค่ะ แต่นี่ก็เป็นแค่มุมมองของคนนอกเท่านั้นนะคะ





ออกจาก มฟล. มา ก็ไปหามื้อกลางวันกินกันค่ะ สำหรับเรา ยังไงก็ต้องได้กินน้ำเงี้ยวกับข้าวกั้นจิ้น แล้วคุณลุงก็พามาที่นี่ค่ะ อ้าว นี่มันร้านน้ำเงี้ยวป้าสุข ร้านดังในหมู่นักท่องเที่ยวนี่นา



เริ่มที่ข้าวกั้นจิ้นกันก่อนเลยค่ะ เป็นข้าวคลุกกับหมูสับและเลือดหมู ห่อใบตอง แล้วนำไปนึ่ง เวลาเสิร์ฟจะแกะห่อออกมา ราดน้ำมันกระเทียมเจียวกับกากหมู โรยผักชี เคียงด้วยแตงกวา เครื่องเคียงแต่ละร้านอาจแตกต่างกัน แต่ก็ประมาณนี้แหละค่ะ สำหรับข้าวกั้นจิ้นที่นี่ ยอมรับว่าผิดหวังค่ะ ไม่รู้เพราะเราโดนแจ็กพอตรึเปล่า คือน้ำมันที่ราดมามันเหม็นหืนอะค่ะ กินไม่อร่อยเลย เสียดาย




หนังปอง กินคล้ายๆ แคบหมู เลยไปหาข้อมูลมา พบว่ามันทำจากหนังควาย ( ̄□ ̄;)!! (บางเจ้าอาจใช้หนังวัว) ใครไม่กินวัวควาย ที่ร้านมีแคบหมูขายนะคะ ราคา(น่าจะ)เท่ากัน ส่วนเราไม่มีปัญหาค่ะ แค่ช็อคนิดๆ ตอนรู้ความจริง ( ̄▽ ̄;)




ต่อไป พระเอกของงาน น้ำเงี้ยว เลือกได้ว่าจะเอาหมูหรือเนื้อ เส้นขนมจีนหรือเส้นก๋วยเตี๋ยว (เส้นเล็ก) เราเลือกเป็นเส้นเล็กค่ะ ตอนที่เราไปเนื้อหมด เลยได้หมูมา รสนัว เข้มข้น เห็นแดงๆ อย่างงี้ไม่เผ็ดนะคะ เท่าที่เคยกินน้ำเงี้ยวมา มันไม่เผ็ดนะ หรืออย่างน้อยก็ไม่เผ็ดมาก นี่คือคำยืนยันจากคนที่กินเผ็ดไม่ค่อยได้ค่ะ

คำเตือน : ไม่ควรใส่เสื้อสีอ่อนไปกินน้ำเงี้ยว เพราะมันจะแดงเถือกไปหมด (เอ๊ะ! หรือเรากินเลอะเทอะเอง ( ̄๐ ̄)?)




ทานคู่กับถั่วงอกสด




และผักกาดดอง

ผักกาดดองนี่จะใส่โถมีฝาปิดใหญ่ๆ ตั้งไว้ที่โต๊ะเลยค่ะ ฟีลลิ่งเหมือนเวลาไปกินแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่จะมีกระปุกหัวไชโป๊ (ใช่เรอะ?!) ตั้งไว้ที่โต๊ะ และเราก็กินล้างผลาญไม่ต่างกันค่ะ



ราคาไม่แน่ใจนะคะ แต่คิดเงินออกมาหาร 2 แล้ว ไม่น่าเกิน 50 บาท (เอ๊ะ หรือเกิน?)
น้ำเงี้ยว 35 บาท
ข้าวกั้นจิ้น 10 บาท
หนังปอง 10 บาท
น้ำเปล่า 10 บาท
คลาดเคลื่อนจากนี้ +/- ไม่น่าเกิน 10 บาท



หมายเหตุ:
คนเชียงรายเขาจะกินน้ำเงี้ยวหรือข้าวซอยเป็นมื้อกลางวันกันค่ะ บางทีบ่ายๆ ของก็เริ่มหมด เริ่มเก็บร้านกันแล้ว ถ้าอยากกิน ไปให้เร็วๆ หน่อยก็ดีค่ะ สัก 11 โมงถึงเที่ยง อะไรประมาณนี้




แถวนั้นมีเซเว่นอยู่ค่ะ เราก็เข้าไปตุนเสบียงที่เซเว่นกันเหมือนเดิม นอกจากขนมกับนมมื้อดึกก็ซื้อมาม่าติดไปด้วยคนละกระปุก เพราะไม่แน่ใจว่าบนดอยจะมีร้านอาหารหรือร้านค้ามั้ย ร้านอาหารของที่พักจะเปิดรึเปล่าก็ไม่รู้ ช่วงนี้เป็น super low season ด้วย ( ̄▽ ̄;)


เสบียงพร้อมแล้วก็ขึ้นดอยกันค่ะ เฮ้! ~~~\( ̄๐ ̄ )









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น