วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2562

Summer Rain in Kyushu :: Part 2.1 :: วัด Tochoji


หลังจากฝากกระเป๋าไว้กับโรงแรมแล้ว ก็ต้องออกไปข้างนอกค่ะ เพราะรู้สึกว่าโรงแรมไม่มีที่ให้รีแล็กซ์​อะไรเลย แม้แต่ห้องอาหาร (มีแค่ห้องอาหารที่ให้บริการอาหารเช้าแก่แขกที่มาพักเฉยๆ ไม่ได้ขายอาหารระหว่างวัน)​


วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2562

Summer Rain in Kyushu :: Part 1 :: การบินไทย สุวรรณภูมิ​ -​ ฟุกุโอกะ


ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้ง สำหรับทริปคิวชูครั้งนี้ เราไปช่วงปลายสุดของเดือนสิงหา ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูร้อน​ของญี่ปุ่น​ค่ะ

วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2562

AIRPORTELs กับบริการรับ-ส่งกระเป๋าถึงบ้านในต่างจังหวัด


พูดถึง AIRPORTELs หลายคนน่าจะพอรู้จักชื่อนี้อยู่บ้าง ในฐานะผู้ให้บริการ Hands-free Travel ในไทย ที่มีทั้งบริการรับฝากกระเป๋าที่สนามบินและห้างสรรพสินค้า​บางแห่ง รวมไปถึงบริการรับ-ส่งกระเป๋าระหว่างสนามบินด้วยกัน สนามบินกับห้าง โรงแรม และบ้าน แต่ก็เหมือนจะถูกพูดถึงแค่ในโซนกรุงเทพ หรือจังหวัดที่เป็นหัวเมืองหลักอย่างเชียงใหม่ ภูเก็ต​ อะไรพวกนี้ซะมากกว่า แล้วถ้าเป็นจังหวัดที่ไม่ได้รับความสนใจอะไรล่ะ เขาจะรับส่งให้มั้ย พอลองสอบถาม ปรากฏว่าได้ค่ะ เลยลองใช้บริการดู


วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2562

Where to Stay in BANGKOK ::: #4 SUK 18 Hostel


Where to Stay in BANGKOK รอบนี้ เรามานอนที่ SUK 18 Hostel ค่ะ ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 18 ออกจาก MRT สุขุมวิท หรือ BTS อโศก ตรงทางออกฝั่ง Exchange Tower แล้วเดินเลาะไปตามถนนสุขุมวิทไม่ไกลก็เจอซอย 18 หน้าปากซอยเหมือนจะเป็นร้านกาแฟกับโชว์รูมรถยนต์ เดินเข้าซอยมาหน่อยนึงก็เจอค่ะ ถ้าหันหน้าเข้าซอยจะอยู่ฝั่งขวา ถัดจากเซเว่นค่ะ ไม่ได้ถ่ายทางเข้าข้างหน้ามา แต่จะเป็นประตูไม้บานใหญ่ๆ หนักๆ มีคำว่า SUK 18 HOSTEL อยู่บนประตูค่ะ



เปิดประตูเข้ามามีแต่ห้องโล่งๆ กับบันไดเหล็ก มีป้ายบอกว่าฝ่ายต้อนรับอยู่ชั้น 2

ตรงนี้จะเป็นที่ฝากกระเป๋าด้วยค่ะ สำหรับคนที่มาก่อนเวลาเช็คอิน หรือเช็คเอาท์แล้วแต่จะไปเที่ยวก่อน สามารถวางกระเป๋าไว้ตรงนี้ได้ค่ะ ไม่ควรเก็บของมีค่าไว้ในกระเป๋า อาจโดนหยิบไปได้ง่ายๆ เลย เพราะไม่มีคนอยู่ ถึงจะมีกล้องวงจรปิดอยู่ก็เหอะ แต่ถ้าใครไม่สบายใจ เขาก็มีลวดให้ผูกกระเป๋าอยู่ค่ะ แต่เราก็ใช้ไม่เป็น แหะๆ ( ̄▽ ̄;)ゞ




ขึ้นมาที่ชั้นพักตรงบันไดก่อนถึงชั้น 2 ต้องถอดรองเท้าไว้ตรงนี้ค่ะ ที่ใส่รองเท้าก็คือช่องสีเขียวๆ ช่วงที่มีสีน้ำตาลของไม้แพลมออกมาตรงมุมๆ นั่นแหละค่ะ ตรงฝาสีเขียวนั่นเปิดได้ ถือเป็นการรวมชั้นรองเท้าเข้ากับการตกแต่งได้ดีมากค่ะ ถ้าไม่สังเกตดีๆ จะไม่รู้เลยว่าข้างหลังไม้ประดับผนังสีเขียวๆ นั่นมีชั้นวางรองเท้าซ่อนอยู่ ส่วนช่องข้างๆ จะเป็นที่นั่งใส่รองเท้า และเขายังมีรองเท้าแตะสำหรับใส่เดินในที่พักให้ด้วยค่ะ









มาถึงชั้น 2 เป็นเคาน์เตอร์ต้อนรับ มีเก้าอี้ให้นั่งด้วย จริงๆ ตรงนี้สว่างสวยงามนะคะ แต่เพราะภาพมันย้อนแสง แล้วเราขี้เกียจแต่ง มันเลยดูมืดๆ อย่างงี้ ( ̄▽ ̄;)


เช็คอินได้ตั้งแต่บ่ายสองถึงสองทุ่ม ถ้าตอนจองเราไม่ได้แจ้งเวลาเช็คอินไว้ เจ้าหน้าที่อาจจะโทรมาถามเราว่าจะเช็คอินกี่โมงค่ะ เพราะ Reception ที่นี่จะปิดตอนสองทุ่ม ซึ่งถือว่าเร็วทีเดียว


ตอนเช็คอิน จะต้องจ่ายค่ามัดจำคีย์การ์ดใบละ 200 บาท และถ้าจะใช้ผ้าเช็ดตัวของทางที่พักด้วย ก็จะมีค่ามัดจำผืนละ 200 บาทค่ะ จะได้คืนในวันที่เช็คเอาท์ ที่ต้องเอาคีย์การ์ดและผ้าเช็ดตัวมาคืนที่เคาน์เตอร์


สรุปคือผ้าเช็ดตัวมีให้ใช้ฟรี แต่มีค่ามัดจำค่ะ และที่ค่ามัดจำคีย์การ์ดและผ้าเช็ดตัวแพงขนาดนี้ คงเพราะเขาเจ็บมาเยอะกับพวกแฮ้บของหรือไม่รักษาของนี่แหละค่ะ






ชั้น 3 เป็นชั้นที่พักค่ะ
เนื่องจากรอบนี้เรามานอน 2 คืน เลยตัดสินใจนอนห้องส่วนตัวค่ะ จะได้สบายตัวสบายใจหน่อย


ในส่วนที่พักจะห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไป ยกเว้นน้ำดื่มบรรจุขวด หากใครต้องการกินดื่มอะไร ให้ขึ้นไปกินที่ชั้น 5 ค่ะ




ประตูห้องเป็นแบบนี้ แตะคีย์การ์ดแล้วก็เปิดเข้าไปค่ะ




เราจองเป็นห้องเตียงควีนไซส์ค่ะ นอนได้ 2 คน แต่เรานอนคนเดียว ที่นี่จะไม่มีห้องพักเดี่ยวแบบส่วนตัวให้ค่ะ ถ้าไม่นอนแบบห้องรวม ก็ต้องเป็นห้องสำหรับ 2 คนอย่างงี้

เตียงตั้งอยู่บนพื้นก็จริง แต่จะเป็นยกพื้นค่ะ




มีโต๊ะ เก้าอี้ ทีวี ถังขยะ ทีวีอยู่ปลายเตียง สามารถนอนดูทีวีได้เลย ตรงโต๊ะจะมีปลั๊กไฟให้ สามารถเสียบคอมทำงานได้ค่ะ เสียตรงที่ไม่มีปลั๊กตรงหัวนอนนี่แหละ เลยนอนเล่นมือถือตอนชาร์จไม่ได้ แต่จะมีปลั๊กไฟอยู่ปลายเตียงค่ะ ถ้าจะนอนเล่นไปชาร์จไปก็กลับหัวนอนเอาละกัน ( ̄▽ ̄)

จริงๆ การชาร์จไปเล่นไปนี่ไม่ดีนะคะ




ตรงประตูจะมีแผงตะขอสำหรับแขวน พร้อมไม้แขวนให้ 2 อัน มีสวิตช์ไฟ รีโมทแอร์ และช่องเสียบคีย์การ์ด ถ้าไม่เสียบไว้จะใช้ไฟในห้องไม่ได้ ตัดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแอร์หรือปลั๊กไฟ ซึ่งค่อนข้างลำบากสำหรับคนที่เข้าพักคนเดียว จะชาร์จมือถือทิ้งไว้ระหว่างไปอาบน้ำก็ไม่ได้ สงสารแอร์ด้วย เข้าๆ ออกๆ ห้อง ก็เดี๋ยวติดเดี๋ยวตัด

ที่นี่มีแต่แบบห้องน้ำรวมนะคะ ถึงจะเป็นห้องส่วนตัวก็ต้องใช้ห้องน้ำรวมค่ะ



ทดลองปิดม่านแล้วเปิดไฟดูค่ะ


ม่านเป็นแบบทึบ ป้องกันแสงรบกวนจากภายนอกได้ดีเลยค่ะ แต่เป็นม่านแบบใช้ไม้จูง จะเปิดปิดม่านทั้งๆ ที่นอนอยู่ไม่ค่อยได้ เพราะมันจะไม่ค่อยไป


ไฟจะมีอยู่ 3 จุด คือไฟเพดาน 1 ดวง หัวเตียง 2 ดวง (แต่ห้องเราดันติดแค่ดวงเดียว แล้วดันลืมแจ้งเจ้าหน้าที่เขาไปอีก)​ แล้วก็โคมไฟตรงโต๊ะอีกจุดนึงค่ะ ถือว่าแสงเพียงพอต่อการอ่านหนังสือหรือทำงาน แต่ก็ยังสวยละมุนตา เหมาะแก่การพักผ่อนค่ะ



ในห้องไม่มีกระจกให้ ใครอยากแต่งหน้า เช็คความเรียบร้อย ก็ต้องห้องน้ำ(รวม)​อะค่ะ




ส่วนตรงนี้เป็นทางไปห้องน้ำค่ะ


ฝั่งนึงจะเป็นห้องน้ำ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องพักค่ะ





เดินจากประตูทางเข้าโซนที่พักมา จะถึงห้องน้ำชายก่อน แล้วก็มีกระจก แล้วถึงจะเป็นห้องน้ำหญิงค่ะ




เปิดประตูเข้าห้องน้ำมา ฝั่งนึงจะเป็นอ่างล้างมือแบบยาว มีสบู่เหลวล้างมือให้


ส่วนอีกฝั่งจะมีกระดาษเช็ดมือ ถังขยะ และมุมแต่งตัว มีกระจกกับโต๊ะโล่งๆ ให้วางของ และมีไดร์เป่าผมให้เครื่องนึงค่ะ







ห้องส้วม
มีตะขอแขวนของให้ ประตูเป็นแบบสองบานปิดเข้าหากัน แล้วใช้ตะขอเกี่ยวไว้ค่ะ







ห้องอาบน้ำ
แยกส่วนเปียกส่วนแห้งโดยใช้ม่านกั้น สำหรับอาบน้ำและแต่งตัว ประตูเป็นแบบเดียวกับห้องส้วม มีตะขอสำหรับแขวนข้าวของให้สองข้างผนัง ส่วนอาบน้ำมีฝักบัวแบบสายพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น มีสบู่เหลวกับแชมพูใส่ที่กดติดผนังไว้ให้ และมีจานวางสบู่ที่พอใช้วางอุปกรณ์​อาบน้ำของเราได้ค่ะ



สำหรับห้องน้ำหญิงชั้นที่เรานอน จะมีห้องอาบน้ำและห้องส้วมให้อย่างละ 3 ห้องค่ะ




ออกมาข้างนอก ตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลางของชั้น 3 ค่ะ สามารถมานั่งเล่นดูทีวีตรงนี้ได้ แถมยังมีกีต้าร์ให้ด้วยค่ะ







ทางขึ้นไปชั้น 4



ชั้น 4 ก็เป็นชั้นที่พักเหมือนกันค่ะ




พื้นที่นั่งเล่นส่วนกลางของชั้น 4






ชั้น 5
เป็นดาดฟ้าส่วนกลางสำหรับรับประทานอาหาร มื้อเช้าจะมีอาหารเช้าง่ายๆ ให้ช่วง 7:00 - 10:00 เป็นพวกขนมปัง เนย แยม ไข่ และซีเรียล เครื่องดื่มก็จะเป็นพวกชา กาแฟสำเร็จรูปค่ะ ระหว่างวันก็สามารถขึ้นมานั่งเล่น หรือเอาอาหารที่ซื้อมาขึ้นมากินได้ มีอุปกรณ์​การกินให้ ใช้เสร็จก็ล้างให้เขาด้วยนะคะ





ตู้เย็น สามารถเอาของส่วนตัวมาแช่ได้ ยกเว้นช่องบนที่เป็นของโฮสเทล กรุณาเขียนชื่อและวันที่ไว้ที่ของที่นำมาแช่ด้วยค่ะ


ข้างๆ ตู้แช่เป็นถังน้ำเปล่า สามารถกดดื่มได้ค่ะ





วิวจากดาดฟ้า
บรรยากาศ​ที่ดาดฟ้าดีมากค่ะ เขาตกแต่งดีมาก แต่ด้วยอากาศ​กรุงเทพ​ ประเทศ​ไทย มันเลยไม่ค่อยน่านั่งเท่าไหร่ (T∇T)






เราจองห้องพักที่นี่จาก Agoda ห้องพักเตียงควีนไซส์ 2 คืน ราคา 2,069 บาท

สำหรับเราที่นี่สวย น่ารัก สะอาด มีบรรยากาศ​ที่เป็นกันเอง และชวนให้คนแปลกหน้ากล้าคุยกัน มีความสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้าทั้งสองสาย และมีเซเว่นอยู่ข้างๆ ถือเป็นที่พักที่ดีอีกที่นึงเลยค่ะ (^_^)










วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2562

Where to Stay in BANGKOK ::: #3 Barn & Bed Hostel


Barn &​ Bed Hostel เป็นที่พักน่ารักๆ อีกแห่งในกรุงเทพที่เราอยากแนะนำค่ะ


สำหรับโฮสเทลแห่งนี้ จะอยู่ใกล้ BTS พร้อม​พงษ์​ค่ะ เดินนิดเดียวก็ถึงแล้ว ข้างหน้าเต็มไปด้วยร้านอาหาร มีแฟมิลี่มาร์ทและเซเว่นอยู่ข้างหน้า (แนะนำแฟมิลี่มาร์ท เพราะเซเว่นที่นี่เล็กมากจนแทบไม่มีอะไรเลย แถมแฟมิลี่มาร์ท​ยังอยู่ตรงทางผ่านตอนเดินไปสถานีรถไฟฟ้าด้วย)​ ส่วนในซอยที่พักมีลอว์สันค่ะ



วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2562

How to จองตั๋วคอน LDH ด้วยตัวเอง


หลังจากที่ LDH ออกกฎใหม่ ให้ใช้รูปถ่ายยืนยันตัวตนก่อนเข้าคอน โดยเริ่มใช้กับคอนที่เปิดจองปี 2019 เป็นต้นไป เรายังไม่รู้รายละเอียดการใช้งานเท่าไหร่ เพราะยังไม่เจอกับตัว แต่คิดว่าน่าจะต้องถ่ายรูปตอนล็อกอินเมมเบอร์ตอนจองตั๋วคอน และก่อนเข้าคอนเขาจะดูรูปนั้นเทียบกับหน้าเราว่าใช่คนเดียวกันมั้ย เพราะงั้นรูปจึงห้ามผ่านแอป ห้ามรีทัช ห้ามปรับแสงใส่ฟิลเตอร์​ใดๆ ทั้งสิ้น มันต้องออกมาน่ากลัวมากแน่ๆ

วิธีสมัครเมมเบอร์ Ticket board


บล็อกนี้แยกออกมาจากบล็อก How to จองตั๋ว​คอน​ LDH ด้วยตัวเอง​ ด้วยตัวเอง ค่ะ เพราะลองเขียนรวมกันแล้วมันอืด อาจเพราะรูปเยอะและยาวไป เลยแยกออกมาดีกว่า ถึงตอนนี้จะเปลี่ยนมาเขียนใน blogger แล้ว ไม่อืดแล้ว แต่ก็คิดว่าแยกดีกว่าค่ะ ( ̄▽ ̄;)ゞ