ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้ง สำหรับทริปคิวชูครั้งนี้ เราไปช่วงปลายสุดของเดือนสิงหา ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูร้อนของญี่ปุ่นค่ะ
เราได้ตั๋วโปรไปกลับกรุงเทพ - ฟุกุโอกะ จากการบินไทยมาในราคา 10,980 บาทค่ะ (มีค่าธรรมเนียมจ่ายเงินอีก 10 บาท) เป็นโปรที่เดินทางได้แค่ช่วงเดือน ส.ค. - ต. ค. 62 วันอาทิตย์ - พุธเท่านั้น ถ้าไปเลือกวันอื่นจะเป็นราคาปกติ และได้น้ำหนักกระเป๋าแค่ 20 กก. ค่ะ ซึ่งเราไม่มีปัญหากับเงื่อนไขพวกนี้ และเราอยากไปคิวชูช่วงปลายสิงหาอยู่แล้วด้วย
อ่ะ มาเริ่มกันเลยนะคะ เที่ยวบินของการบินไทยไปฟุกุโอกะ จะออกจากสุวรรณภูมิตอนเที่ยงคืน 50 นาที และไปถึงฟุกุโอกะตอน 8 โมงเช้าค่ะ เป็นเครื่องโค้ดแชร์กับ ANA คนญี่ปุ่นเยอะมาก น่าจะเยอะกว่าไทย
คืนที่เราเดินทาง สุวรรณภูมิมีฝนตกตลอด แต่ทุกอย่างเป็นปกติดี จนกระทั่งได้เวลาเครื่องออกแล้วก็ยังไม่ออก นั่งรอไปประมาณ 1 ชั่วโมง กัปตันประกาศว่าเครื่องขัดข้อง กำลังซ่อมอยู่ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ระหว่างนั้นก็ต้องรออยู่บนเครื่องกันค่ะ ลูกเรือเอาน้ำมาเสิร์ฟให้ครั้งนึง
ถึงจะหงุดหงิดที่ดีเลย์ แต่ก็ดีกว่าให้มันตกหละค่ะ
ระหว่างที่รอซ่อมเครื่อง ลูกเรือก็ถือโอกาสเอาใบตม. และใบศุลกากรญี่ปุ่นมาแจกให้กรอกกันตอนนี้เลยค่ะ อย่าลืมพกปากกาไปด้วยนะคะ
อ่ะ มาเริ่มกันเลยนะคะ เที่ยวบินของการบินไทยไปฟุกุโอกะ จะออกจากสุวรรณภูมิตอนเที่ยงคืน 50 นาที และไปถึงฟุกุโอกะตอน 8 โมงเช้าค่ะ เป็นเครื่องโค้ดแชร์กับ ANA คนญี่ปุ่นเยอะมาก น่าจะเยอะกว่าไทย
คืนที่เราเดินทาง สุวรรณภูมิมีฝนตกตลอด แต่ทุกอย่างเป็นปกติดี จนกระทั่งได้เวลาเครื่องออกแล้วก็ยังไม่ออก นั่งรอไปประมาณ 1 ชั่วโมง กัปตันประกาศว่าเครื่องขัดข้อง กำลังซ่อมอยู่ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ระหว่างนั้นก็ต้องรออยู่บนเครื่องกันค่ะ ลูกเรือเอาน้ำมาเสิร์ฟให้ครั้งนึง
ถึงจะหงุดหงิดที่ดีเลย์ แต่ก็ดีกว่าให้มันตกหละค่ะ
ระหว่างที่รอซ่อมเครื่อง ลูกเรือก็ถือโอกาสเอาใบตม. และใบศุลกากรญี่ปุ่นมาแจกให้กรอกกันตอนนี้เลยค่ะ อย่าลืมพกปากกาไปด้วยนะคะ
จนกระทั่งเกือบๆ ตีสาม ถึงจะได้ไป เป็นครั้งแรกที่กลัวเครื่องบิน แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่า ถ้าไม่ 100% นักบินไม่เอาเครื่องออกหรอก เพราะเขาก็กลัวตายเหมือนกัน และช่างก็คงไม่ซ่อมลวกๆ ด้วยเหมือนกัน เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เขาต้องมีความผิดแน่ๆ และจะเป็นตราบาปที่ตามหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิตด้วย
พอเครื่องออกได้ ทุกคนก็เหมือนจะสบายใจและเริ่มหลับกันได้ค่ะ หลังจากเครื่องขึ้นมาได้พักนึง ลูกเรือจะแจกถุงของว่าง มีแซนด์วิชแฮมชีส น้ำเปล่า และทิชชู่เปียกสำหรับเช็ดมือค่ะ
แฮมหนาๆ ชีสแน่นๆ อร่อยมากค่ะ น่าจะมาตั้งแต่ตอนที่นั่งดีเลย์อยู่แล้ว มาตอนนี้คนอื่นเขาหลับกันแล้ว ไม่มีใครกิน ให้เรามานั่งเคี้ยวหยับๆ ปล่อยกลิ่น ก็เกรงใจคนอื่นเขาค่ะ สุดท้ายเลยเก็บไว้กินหลังจากไปถึงแล้ว
เครื่องบินที่ใช้สำหรับเส้นทางฟุกุโอกะ เป็นเครื่อง Airbus A330 จัดที่นั่งแบบ 2-4-2 ค่ะ ที่นั่งกว้างสบายพอให้ขยับตัวเวลาเมื่อยได้ และยังพอเอนเบาะได้บ้าง โดยไม่ทำให้คนข้างหลังหน้าตึง แต่แค่นิดเดียวพอนะคะ แค่พอไม่ให้รู้สึกเหมือนโดนบังคับให้นั่งก้มหน้าตลอดเวลา เพราะถ้ามากกว่านี้ก็อาจจะโดนคนข้างหลังสาปแช่งได้เหมือนกันค่ะ มีหมอนและผ้าห่มวางไว้ให้ทุกที่นั่ง มีจอเอนเตอร์เทนเมนท์และหูฟังให้ มีหนังให้ดู มีเพลงให้ฟัง แต่ ณ เวลานั้นก็นอนกันอย่างเดียวละค่ะ
หากใครมีปัญหาด้านการนอนหลับ หลับยากหลับเย็นอย่างเรา (เป็นแค่ไฟลท์ขาไปเท่านั้นแหละ ขากลับหลับเป็นเด็กเลย) เขามีผ้าปิดตาและที่อุดหูให้นะคะ ไม่ได้แจกให้ทุกคน แต่สามารถขอได้ เราขอแค่ผ้าปิดตา แต่ได้ที่อุดหูมาด้วยค่ะ สงสัยเขาให้คู่กัน
เราคิดว่าที่ขาไปนอนไม่หลับคงเป็นเพราะความเครียด เป็นทุกครั้ง เครียดเพราะกำลังเดินทางไปในที่ที่ไม่คุ้นเคย ความตื่นเต้น ความกลัว เครียดกับทริปที่ไม่รู้ว่าจะราบรื่นมั้ย ถ้าเจอปัญหาเราจะผ่านมันไปได้ยังไง บวกกับความรู้สึกว่าต้องนอน เพราะเป็นไฟลท์ดึกถึงเช้า ไปถึงต้องเที่ยวต่อเลย จะเข้าโรงแรมนอนก่อนไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน
ส่วนขากลับที่หลับได้ คงเป็นเพราะความเหนื่อยจากการลุยเที่ยวมาหลายวัน บวกกับความสบายใจที่ได้กลับไปยังที่ที่คุ้นเคย แม้จะเป็นการกลับสู่ความจริงที่โหดร้ายก็ตาม (T∇T)
ระหว่างนี้ลูกเรือจะปิดไฟในห้องโดยสาร และขอให้ผู้โดยสารปิดม่านหน้าต่าง เพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของคนอื่น คนที่นอนไม่หลับก็ดูหนัง อ่านหนังสือ ทำงานเงียบๆ ไป ไม่มีการเสิร์ฟน้ำระหว่างนี้ แต่ถ้าหิวน้ำ สามารถเดินไปขอลูกเรือได้ค่ะ
ก่อนเครื่องลงประมาณ 2 ชั่วโมง ลูกเรือจะเปิดไฟในห้องโดยสารและเริ่มเสิร์ฟอาหารค่ะ คนที่สั่งอาหารพิเศษไว้จะได้ก่อน
เราเคยอ่านกระทู้เกี่ยวกับอาหารพิเศษบนสายการบินฟูลเซอร์วิส เป็นอาหารที่สามารถรีเควสได้ตั้งแต่ตอนจอง หลายคนขออาหารพิเศษเพราะอยากได้อาหารก่อน แต่คนส่วนใหญ่จะแนะนำว่า ถ้าไม่มีความต้องการพิเศษ แบบข้อจำกัดทางศาสนาหรือสุขภาพ ให้รอกินอาหารปกติดีกว่า เพราะอร่อยกว่าค่ะ อาหารพิเศษจะเป็นแบบไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ได้ แล้วส่วนผสมบางอย่างไม่ใส่แล้วไม่อร่อยค่ะ
อาหารเช้าของเที่ยวบินนี้ มีให้เลือกระหว่างออมเล็ตกับข้าวไก่กระเทียมค่ะ เราเลือกออมเล็ตมา เสิร์ฟมาพร้อมครัวซองต์ มีเนยกับแยมให้ แล้วก็มีผลไม้สด โยเกิร์ตรสธรรมชาติ และน้ำผลไม้ค่ะ มีถ้วยเปล่ามาให้ใส่เครื่องดื่มร้อน ลูกเรือจะเข็นรถมาเสิร์ฟ มีชาเขียว (ไม่แน่ใจว่ามีชาดำด้วยรึเปล่า แต่เหมือนได้กลิ่นอยู่) กาแฟ เลือกใส่นมได้ และมีครีมเทียมกับน้ำตาลเป็นซองๆ ให้ ส่วนพวกเครื่องดื่มเย็นจะมีน้ำเปล่า น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล น้ำมะเขือเทศค่ะ รอบนี้มีน้ำแอปเปิ้ลตลอดการเดินทางแล้ว แฮปปี้มาก เราไม่แตะน้ำส้มเลยค่ะ
ครัวซองต์อุ่นๆ อร่อยมากค่ะ เราชอบครัวซองต์อยู่แล้วด้วย รู้สึกว่าชิ้นเล็กไปหน่อย (แต่เติมได้ ลูกเรือเดินถามอยู่ว่าจะรับเพิ่มมั้ย) แต่พอคิดดูอีกที ถ้าใหญ่กว่านี้เรากินไม่หมดแน่
ส่วนของจานหลักที่เป็นออมเล็ต เป็นไข่ทอดผสมผักชิ้นหนา มาพร้อมเบคอน มันฝรั่ง และผักโขม
ประมาณ 10 โมงเช้าตามเวลาญี่ปุ่น เครื่องก็เริ่มลดระดับลงจนเห็นพื้นข้างล่างค่อนข้างชัดเจน ฟุกุโอกะที่เห็นจากบนเครื่องบินสวยมากค่ะ
สนามบินฟุกุโอกะมีร่องรอยฝนตก แต่ตอนที่เรามาถึง ฝนหยุดตกแล้วค่ะ
ตอนลงแล้วเบรคค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว ไม่รู้นักบินกะจังหวะผิด รันเวย์สั้น หรือรันเวย์ลื่นเพราะน้ำฝน แต่ก็มาถึงโดยสวัสดิภาพค่ะ
ตอนออกจากเครื่อง เราได้ยินพวกสตาฟคุยกันว่าเครื่องมีปัญหาที่ระบบเบรคไฮดรอลิกค่ะ ที่ซ่อมกันอยู่ที่ไทยจนดีเลย์หลายชั่วโมงนั่นแหละ บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้การเบรคไม่นุ่มนวลนักก็ได้ค่ะ
ลงเครื่องมา ก็เข้าด่านตม. รับกระเป๋า และเข้าด่านศุลกากรค่ะ พาสปอร์ตเราเป็นเล่มใหม่ เพราะเล่มเก่าหมดอายุการใช้งาน แต่ตม. ก็ปล่อยเข้าไปแบบไม่ถามอะไรนะคะ
มาโดนตรงศุลกากร เขาถามว่ามาคนเดียวหรอ เราก็บอกใช่ แล้วถามย้ำตรงของต้องสำแดงในใบศุลกากรที่เราตอบ No เราก็งงๆ หน่อยว่า No ไปแล้ว ทำไมยังต้องถามอีก แล้วเขาก็เอาใบที่มีรูปของต้องห้ามรึไงนี่แหละ เราจำได้แต่รูปกัญชามาให้ดู แล้วถามว่าเอาของพวกนี้มาด้วยมั้ย เราก็ปฏิเสธไปแบบงงๆ (พี่ถามแบบโต้งๆ อย่างงี้เลยเหรอคะ ใครมันจะไปยอมรับฟระ?! (T∇T)) แต่คิดว่าคนที่เอามาจริงต่อให้ปฏิเสธก็น่าจะมีพิรุธบางอย่างให้เขาจับได้
จากนั้นเขาก็ขอตรวจกระเป๋า เราก็ยกให้ตรวจแบบงงๆ เพราะไม่เคยโดนมาก่อน แต่เขาใจดีกับเรามากนะ เจ้าหน้าที่อีกคนเอาแผ่นอะไรสักอย่างที่ดูคล้ายๆ สำลีแผ่น แต่ดูเหมือนกระดาษมากกว่ามา ทำท่าเหมือนขออนุญาตเราใช้แผ่นนี่ เราก็งงๆ ไม่รู้ว่าเขาจะเอามาทำอะไร แต่ก็พยักหน้าไป (แล้วต้องขออนุญาตด้วยหรอ ถ้าฉันปฏิเสธก็บิงโกปะ (T∇T)) แล้วเขาก็เอาแผ่นนั่นมาลูบๆ เช็ดๆ ที่กระเป๋าเรา มันอาจจะทำปฏิกิริยากับยาเสพติดหรืออะไรสักอย่างที่เป็นของต้องห้าม ส่วนอีกคนก็ค้นๆ กระเป๋าไป ค้นแบบใจดีมาก ไม่เกรี้ยวกราดรื้อกระจาย หยิบมาเปิดดูแล้วปิดเก็บเข้าที่ให้ด้วย
มีโมเมนท์ขำๆ ที่ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงได้หน่อย ตอนที่เขาหยิบไข่กาชาปองของเราขึ้นมาเขย่าดู แล้วถามว่าในนี้มีอะไร เรายังไม่ทันได้ตอบ เขาก็อ๋อ เหรียญ ใช่ค่ะ เหรียญเยนนั่นหละค่ะ แล้วเขาก็เก็บเข้าที่เดิม แต่เราก็ฉกมาใส่กระเป๋าสะพายทันที เพราะมาถึงญี่ปุ่นแล้ว เราต้องเปลี่ยนเหรียญในกระเป๋าแล้ว เขาก็ยิ้มๆ เหมือนเข้าใจ หลังจากนั้นก็ปิดกระเป๋าแล้วปล่อยเราไปค่ะ
พอหลุดมาได้ก็ออกไปข้างหน้า จะมีป้ายรถบัสอยู่ค่ะ ป้ายหมายเลข 1 จะเป็นจุดจอดรถบัสฟรีไปอาคารในประเทศที่มีรถไฟใต้ดินเข้าเมืองอยู่ค่ะ
จากอาคาร International ไป Domestic ใช้เวลาประมาณ 15 นาที Subway จะอยู่ที่ชั้น B1 ของอาคาร Domestic เดินตามป้ายไปเลยค่ะ
มาถึงซับเวย์ก็กด IC Card ก่อนเลย เพราะเราสะสม ของ Fukuoka Subway จะเป็นฮายากะเคน (はやかけん : Hayakaken) แล้วขึ้นซับเวย์ไปสถานีฮากาตะ (博多 : Hakata) เบสของเราในทริปนี้ค่ะ
สถานีฮากาตะอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 2 สถานี ใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาทีโดยรถไฟใต้ดิน (น้อยกว่าเดินทางระหว่าง Terminal อีกเรอะ (T∇T)) ค่าโดยสาร 260 เยน
มาถึงสถานีฮากาตะ ปรากฏว่าฝนตกค่ะ ก็กางร่มเดินงงๆ หาที่พักไป เราไปถึงโรงแรมประมาณเที่ยงกว่า แต่เวลาเช็คอินคือบ่ายสอง เลยฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้วออกไปเดินเล่นก่อนค่ะ
เนื่องจากเป็นวันแรก แพลนวันนี้คร่าวๆ คือเที่ยวเบาๆ ในเมืองฟุกุโอกะค่ะ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี สุดท้ายแล้วเราจะไปโผล่ที่ไหน รอติดตามในเอนทรี่หน้านะคะ ヾ(@⌒ー⌒@)ノ
ประมาณ 10 โมงเช้าตามเวลาญี่ปุ่น เครื่องก็เริ่มลดระดับลงจนเห็นพื้นข้างล่างค่อนข้างชัดเจน ฟุกุโอกะที่เห็นจากบนเครื่องบินสวยมากค่ะ
สนามบินฟุกุโอกะมีร่องรอยฝนตก แต่ตอนที่เรามาถึง ฝนหยุดตกแล้วค่ะ
ตอนลงแล้วเบรคค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว ไม่รู้นักบินกะจังหวะผิด รันเวย์สั้น หรือรันเวย์ลื่นเพราะน้ำฝน แต่ก็มาถึงโดยสวัสดิภาพค่ะ
ตอนออกจากเครื่อง เราได้ยินพวกสตาฟคุยกันว่าเครื่องมีปัญหาที่ระบบเบรคไฮดรอลิกค่ะ ที่ซ่อมกันอยู่ที่ไทยจนดีเลย์หลายชั่วโมงนั่นแหละ บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้การเบรคไม่นุ่มนวลนักก็ได้ค่ะ
ลงเครื่องมา ก็เข้าด่านตม. รับกระเป๋า และเข้าด่านศุลกากรค่ะ พาสปอร์ตเราเป็นเล่มใหม่ เพราะเล่มเก่าหมดอายุการใช้งาน แต่ตม. ก็ปล่อยเข้าไปแบบไม่ถามอะไรนะคะ
มาโดนตรงศุลกากร เขาถามว่ามาคนเดียวหรอ เราก็บอกใช่ แล้วถามย้ำตรงของต้องสำแดงในใบศุลกากรที่เราตอบ No เราก็งงๆ หน่อยว่า No ไปแล้ว ทำไมยังต้องถามอีก แล้วเขาก็เอาใบที่มีรูปของต้องห้ามรึไงนี่แหละ เราจำได้แต่รูปกัญชามาให้ดู แล้วถามว่าเอาของพวกนี้มาด้วยมั้ย เราก็ปฏิเสธไปแบบงงๆ (พี่ถามแบบโต้งๆ อย่างงี้เลยเหรอคะ ใครมันจะไปยอมรับฟระ?! (T∇T)) แต่คิดว่าคนที่เอามาจริงต่อให้ปฏิเสธก็น่าจะมีพิรุธบางอย่างให้เขาจับได้
จากนั้นเขาก็ขอตรวจกระเป๋า เราก็ยกให้ตรวจแบบงงๆ เพราะไม่เคยโดนมาก่อน แต่เขาใจดีกับเรามากนะ เจ้าหน้าที่อีกคนเอาแผ่นอะไรสักอย่างที่ดูคล้ายๆ สำลีแผ่น แต่ดูเหมือนกระดาษมากกว่ามา ทำท่าเหมือนขออนุญาตเราใช้แผ่นนี่ เราก็งงๆ ไม่รู้ว่าเขาจะเอามาทำอะไร แต่ก็พยักหน้าไป (แล้วต้องขออนุญาตด้วยหรอ ถ้าฉันปฏิเสธก็บิงโกปะ (T∇T)) แล้วเขาก็เอาแผ่นนั่นมาลูบๆ เช็ดๆ ที่กระเป๋าเรา มันอาจจะทำปฏิกิริยากับยาเสพติดหรืออะไรสักอย่างที่เป็นของต้องห้าม ส่วนอีกคนก็ค้นๆ กระเป๋าไป ค้นแบบใจดีมาก ไม่เกรี้ยวกราดรื้อกระจาย หยิบมาเปิดดูแล้วปิดเก็บเข้าที่ให้ด้วย
มีโมเมนท์ขำๆ ที่ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงได้หน่อย ตอนที่เขาหยิบไข่กาชาปองของเราขึ้นมาเขย่าดู แล้วถามว่าในนี้มีอะไร เรายังไม่ทันได้ตอบ เขาก็อ๋อ เหรียญ ใช่ค่ะ เหรียญเยนนั่นหละค่ะ แล้วเขาก็เก็บเข้าที่เดิม แต่เราก็ฉกมาใส่กระเป๋าสะพายทันที เพราะมาถึงญี่ปุ่นแล้ว เราต้องเปลี่ยนเหรียญในกระเป๋าแล้ว เขาก็ยิ้มๆ เหมือนเข้าใจ หลังจากนั้นก็ปิดกระเป๋าแล้วปล่อยเราไปค่ะ
พอหลุดมาได้ก็ออกไปข้างหน้า จะมีป้ายรถบัสอยู่ค่ะ ป้ายหมายเลข 1 จะเป็นจุดจอดรถบัสฟรีไปอาคารในประเทศที่มีรถไฟใต้ดินเข้าเมืองอยู่ค่ะ
จากอาคาร International ไป Domestic ใช้เวลาประมาณ 15 นาที Subway จะอยู่ที่ชั้น B1 ของอาคาร Domestic เดินตามป้ายไปเลยค่ะ
มาถึงซับเวย์ก็กด IC Card ก่อนเลย เพราะเราสะสม ของ Fukuoka Subway จะเป็นฮายากะเคน (はやかけん : Hayakaken) แล้วขึ้นซับเวย์ไปสถานีฮากาตะ (博多 : Hakata) เบสของเราในทริปนี้ค่ะ
สถานีฮากาตะอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 2 สถานี ใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาทีโดยรถไฟใต้ดิน (น้อยกว่าเดินทางระหว่าง Terminal อีกเรอะ (T∇T)) ค่าโดยสาร 260 เยน
มาถึงสถานีฮากาตะ ปรากฏว่าฝนตกค่ะ ก็กางร่มเดินงงๆ หาที่พักไป เราไปถึงโรงแรมประมาณเที่ยงกว่า แต่เวลาเช็คอินคือบ่ายสอง เลยฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้วออกไปเดินเล่นก่อนค่ะ
เนื่องจากเป็นวันแรก แพลนวันนี้คร่าวๆ คือเที่ยวเบาๆ ในเมืองฟุกุโอกะค่ะ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี สุดท้ายแล้วเราจะไปโผล่ที่ไหน รอติดตามในเอนทรี่หน้านะคะ ヾ(@⌒ー⌒@)ノ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
- Facebook การบินไทย สำหรับติดตามโปรโมชั่นต่างๆ
- เว็บไซต์การบินไทย สำหรับจองตั๋วเครื่องบิน
- สนามบินฟุกุโอกะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น