วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

Japan 1st Time part 3.1 : Takayama - Shirakawa-go

วันที่ 3 เราออกเดินทางจากนาโกย่าไปทาคายาม่ากันแต่เช้า ด้วยรถบัสของ Meitetsu Bus รอบ 7:30 ราคาตั๋วแบบเที่ยวเดียว คนละ 2,980 เยนค่ะ





เราจองตั๋วรถบัสจากเว็บ Highway-buses มาก่อนแล้วค่ะ โดยสามารถจองล่วงหน้าได้ 1 เดือน ทางเว็บจะส่งใบจองมาให้ทางอีเมล์ ข้อดีคือยังไม่ต้องจ่ายเงิน พอจะไปก็ปริ๊นท์ใบจองออกมาเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการออกตั๋ว ควรไปขึ้นตั๋วก่อนเวลารถออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมงนะคะ แต่เราไปขึ้นตั๋วกันไว้ตั้งแต่คืนก่อนออกเดินทางแล้ว ขั้นตอนการออกตั๋วก็ไม่มีอะไรมาก ให้ไปที่สำนักงาน Meitetsu ซึ่งก็อยู่รวมๆ กับสถานีนาโกย่านั่นแหละค่ะ เราจำทางไม่ได้แล้ว แต่เดินตามป้ายไปเดี๋ยวก็เจอค่ะ หาไม่ยากหรอก ไปถึงก็เอาใบจองไปยื่นที่เคาน์เตอร์ เขาจะออกตั๋วให้ เราก็จ่ายเงินไป ถึงเวลาก็เดินไปขึ้นรถได้เลยค่ะ


**ล่าสุดที่เราลองเช็คข้อมูลดู เว็บ Highway-buses ไม่มีให้จองตั๋วรถบัสนาโกย่า - ทาคายาม่าแล้วค่ะ แต่รูทนี้ยังมีอยู่ ถ้าไม่ได้เดินทางช่วงพีคจริงๆ ก็น่าจะวอล์คอินเข้าไปซื้อตั๋วได้อยู่นะคะ เพื่อความมั่นใจ จะไปซื้อตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อยสัก 1 ชั่วโมงก็ดีค่ะ หรือถ้าอยากจองล่วงหน้าผ่านเว็บจริงๆ ก็ยังมีเว็บอื่นอยู่นะคะ เช่น ของ JR Tokai Bus Company ซึ่งจะเปิดให้จองแค่ช่วง 5:00 - 1:00 ตามเวลาญี่ปุ่นเท่านั้น (3:00 - 23:00 ตามเวลาไทย) ไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่เนื่องจากเราไม่เคยใช้บริการเว็บพวกนี้ จึงไม่สามารถแนะนำอะไรได้ค่ะ




สิ่งสำคัญในการขึ้นรถบัสที่ญี่ปุ่นคือความตรงต่อเวลาค่ะ เขาออกตรงเวลาเป๊ะๆ คุณสายไป 1 นาทีก็ตกรถแล้ว ใต้ท้องรถมีพื้นที่กว้างขวางพอที่จะรองรับสัมภาระของคนทั้งรถ แต่ต้องเก็บเองนะคะ ไม่มีเด็กรถมาช่วยเก็บให้นะ ยิ่งของคุณเป็นใบแรกๆ คุณต้องคลานเข้าไปและดันมันเข้าไปไว้ในสุด เพื่อให้คนอื่นมีที่วาง และตอนที่ดึงออกมาก็เหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ



ทั้งคันจะมีพนักงานขับรถแค่คนเดียวค่ะ ไม่มีเด็กรถ ไม่มีพนักงานเก็บค่าโดยสาร คนขับจะเช็คตั๋วก่อนขึ้นรถ รถจะมีจุดจอดชัดเจน และผู้โดยสารจะต้องซื้อตั๋วก่อนขึ้นรถค่ะ


บนรถดูดี ดูใหม่ ดูสะอาด นั่งสบาย ที่นั่งจะล็อคไว้ตั้งแต่ตอนจอง/ซื้อตั๋วนะคะ ไม่ใช่จะนั่งตรงไหนก็ได้นะ คนขับรถขับได้นิ่มมาก แทบไม่โคลงหรือหวี่ยงเลย ไม่มีกระชากหรือเบรคกระทันหัน ความเร็วกำลังดีเลยค่ะ ไม่ซิ่ง และไม่หวานเย็น

ปกติเส้นทางนาโกย่า - ทาคายาม่านี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาทีค่ะ ตามกำหนดการรถรอบ 7:30 จะไปถึงทาคายาม่าตอน 10:10 แต่เนื่องจากวันที่เราเดินทางเป็นวันเสาร์ เป็นวันวาเลนไทน์ และเป็นวันประดับไฟที่ชิราคาว่าโกะ รถเลยติดพอๆ กับถนนขึ้นเหนือช่วงปีใหม่ที่ไทย กว่าจะไปถึงก็ล่อไป 11 โมงได้ค่ะ



 แอบถ่ายจากในรถ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าข้างหน้ามีแต่รถเรียงกันเป็นแถวยาวเลย





 ถึงทาคายาม่าแล้วค่ะ






บรรยากาศแถวๆสถานีรถบัสทาคายาม่า




ที่เห็นในรูปนี้คือชานชาลาที่ 3 ค่ะ ใครจะไปโตเกียว เกียวโต โอซาก้า นาโกย่า ให้มารอตรงนี้ ส่วนรถไปชิราคาว่าโกะจะจอดอีกชานชาลานึงซึ่งไม่ได้ถ่ายมา แล้วคนไปชิราคาว่าโกะเยอะมาก แถวยาวมาก รถก็มีไม่เยอะ รอนานมาก และแน่นอนว่าหนาวมากด้วยค่ะ






ถึงทาคายาม่าก็เข้าที่พักกันก่อนค่ะ เราพักกันที่ K's House Takayama เวลาเช็คอินคือบ่ายสาม เราไปถึงก่อนเวลา สามารถเช็คอินได้เลย แต่จะยังไม่ได้ห้อง เลยฝากกระเป๋าไว้กับเขาแล้วออกไปเที่ยวกันก่อนค่ะ


จุดประสงค์ของเราคืองานประดับไฟหรือ Light up ที่ชิราคาว่าโกะค่ะ ขาไปไม่มีปัญหาหรอกค่ะ จะมีปัญหาก็ขากลับนี่แหละ เพราะมันไม่มีรถ รถบัสรอบพิเศษก็เต็มตั้งแต่เปิดจองไปได้ไม่กี่นาที ซึ่งจะเปิดให้จองล่วงหน้าได้ 1 เดือน และต้องโทรไปจองเท่านั้น คนที่ไม่มีคอนเนคชั่นที่ญี่ปุ่นอย่างเราก็ยังไม่อับจนหนทางขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังมีเอเจนท์ที่รับจองอยู่ และแน่นอนว่าต้องมีค่าบริการเพิ่มเติม แต่ไม่แพงหรอกค่ะ ปัญหามันอยู่ที่เอเจนท์ก็จองไม่ทันค่ะ ส่วนค่าแท็กซี่ก็แพงเหลือเกิน เราเลยตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า ถ้าเจอนักท่องเที่ยวที่จะนั่งแท็กซี่ไปเหมือนกันก็อาจจะไปขอแชร์รถกับเขา (แน่นอนว่าแชร์ค่ารถด้วย) แต่สุดท้ายไม่กล้าพอค่ะ เลยต้องไปแบบ Day trip แทน บอกตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอก แค่ได้ไปก็ดีแล้ว ( ̄▽ ̄;)





ทางโรงแรมจัดการติดต่อจองรถให้เราเองเลยค่ะ ขาไปเป็นแบบไม่ระบุเวลา ขากลับเลือกเป็นรอบสุดท้ายที่ต้องจอง เขาจะจดข้อมูลจองให้ เราก็เอาใบนั้นไปยื่นที่เคาน์เตอร์ตอนซื้อตั๋วค่ะ ตั๋วไปกลับทาคายาม่า - ชิราคาว่าโกะ ราคา 4,420 เยน เนื่องจากต้องทำเวลา มื้อกลางวันของเราเลยเป็นแซนด์วิชกับนมจากแฟมิลี่มาร์ทที่อยู่ใกล้ๆ กับท่ารถค่ะ









ประสบการณ์ในเมืองหิมะครั้งแรก ตื่นตาตื่นใจมากค่ะ คือมันขาวโพลนไปหมดเลย ดูสวยดีนะ สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นหรือไม่ค่อยได้เห็น แต่สำหรับคนที่ต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมแบบนี้หลายๆ เดือนคงหดหู่ทีเดียวนะคะ เพราะทุกอย่างดูเป็นภาพขาวดำไปหมด แถมยังต้องคอยกวาดหิมะลงจากหลังคา และต้องคอยขุดหิมะออกจากทางเข้าบ้านอีก







ถึงแล้วค่ะ
ชิราคาว่าโกะ



ตรงนี้จะเป็นกลุ่มอาคารบริการนักท่องเที่ยวและที่จอดรถค่ะ




พอมาถึงชิราคาว่าโกะ พบว่าหิมะตกหนักยิ่งกว่าทาคายาม่าอีกค่ะ สุดท้ายทนไม่ไหว เลยตัดสินใจซื้อร่มจากจุดบริการนักท่องเที่ยว ร่มใสตอนเดียวราคา 500 เยน ส่วนร่มพับจะแพงกว่าค่ะ




อาคารบริการนักท่องเที่ยว มีห้องน้ำ ร้านขายของที่ระลึก ของที่จำเป็นต่อการเที่ยว เช่น ร่ม มีที่ขายตั๋วรถบัส และมีห้องนั่งรอรถบัสด้วยค่ะ



เซลฟี่กันสักหน่อย ผ้าปิดปากช่วยได้เยอะจริงๆ ค่ะ เรากำลังพูดถึงเรื่องอากาศกันอยู่นะคะ คือมันหนาวมาก หนาวแค่ไหนก็ดูสภาพละกันนะคะ นี่คือสภาพหลังจากออกมากลางแจ้งได้ประมาณ 5 นาทีค่ะ มันหนาวจนปากแข็งชาไปหมด ผ้าปิดปากช่วยให้อุ่นได้จริงๆ ค่ะ ปากไม่แข็งอีกเลย แต่จะเกิดสภาวะน้ำท่วมปากแทน เพราะหลังจากใส่มาสก์ไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ไอน้ำจากลมหายใจของเราจะกลายเป็นหยดน้ำเกาะอยู่ด้านในของมาสก์ พอเยอะๆ เข้ามันรำคาญค่ะ เหมือนมีน้ำมูกไหลอยู่ตลอดเวลา และเพราะมันหนาวขนาดนี้ เราเลยไม่รู้ว่ามันคือไอน้ำหรือน้ำมูกจริงๆ กันแน่




 

การจะเข้าไปในชิราคาว่าโกะนั้นต้องข้ามสะพานแขวนไปค่ะ ความกว้างสะพานประมาณผู้ใหญ่ไซส์ M (ไม่ผอมไม่อ้วน) 3 คนเดินเรียงหน้ากระดานได้ค่ะ สะพานไม่โคลงเท่าไหร่ แต่พื้นสะพานเลวร้ายมาก เพราะเป็นเมืองหิมะ เลยมีหิมะตกเยอะ สุมๆ กองๆ กันบนสะพาน พอคนเดินเหยียบหิมะนั่นมากๆ เข้า มันก็อัดตัวจนกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง นึกสภาพตอนเดินบนสะพานแขวนที่กลายเป็นลานไอซ์สเก็ตดูสิคะ



ชิดซ้ายไว้นะคะ จะได้ไม่ชนกับคนที่เดินสวนออกมา ถึงจริงๆแล้วจะเดินกันไร้ระเบียบมากก็เหอะ ( ̄▽ ̄;)


หลุดจากสะพานแขวนไปได้เลวร้ายยิ่งกว่า เพราะทางเดินเป็นเนิน บางจุดทั้งสูงทั้งชัน ข้างๆ ก็แทบไม่มีอะไรให้ยึดเป็นหลักเลย แล้วพื้นเป็นน้ำแข็งด้วย เฮ้~! (T∇T) เพราะฉะนั้น ใครที่คิดจะลากกระเป๋าใบใหญ่ๆ เข้าออกชิราคาว่าโกะในฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะและทางเดินที่กลายเป็นน้ำแข็ง อยากให้คิดให้ดีๆ ก่อนนะคะ






ต่อไปเป็นภาพบรรยากาศในหมู่บ้านค่ะ (^_^)












"ฉันชื่อโอลาฟ ฉันรักอ้อมกอดอุ่น"








 ถ่ายพาโนรามาที่ไม่ถนัดเอาซะเลยไว้ซะหน่อย ถ่ายแบบไม่มีขาตั้งกล้อง (กล้องมือถือด้วย) เพราะงั้นก็อย่าซูมละกันค่ะ ( ̄▽ ̄)


เราไม่ได้ขึ้นไปที่จุดชมวิวนะคะ เพราะมัวแต่เดินเล่นในหมู่บ้าน กว่าจะไปถึงทางเดินไปจุดชมวิวเวลาก็หมดแล้วค่ะ ( ̄▽ ̄;)




เราต้องขึ้นรถกลับทาคายาม่าตอน 17:20 ประมาณห้าโมงเราก็เริ่มเดินออกจากหมู่บ้านแล้วค่ะ คนเดินสวนเราเข้ามามีเยอะทีเดียว คงเพราะใกล้มืดแล้ว อีกไม่นานก็จะเปิดไฟแล้ว


ตอนเราออกไปต่อแถวขึ้นรถ รถคันที่เราจะขึ้นดันเต็มซะนี่ ใจเสียเลยค่ะ ก็เราจองไว้แล้วนี่ มันไม่ควรจะเต็มปะ แต่สักพักก็มีรถอีกคันมาจอดรับผู้โดยสารที่เหลือรวมทั้งเราขึ้นไปค่ะ แต่ก็นั่นหละนะ จะทิ้งผู้โดยสารที่จ่ายเงินแล้วไว้ได้ยังไงกัน


มื้อเย็นวันนี้เป็นข้าวกล่องจากแฟมิลี่มาร์ทค่ะ จริงๆ ตั้งใจจะกินเนื้อย่าง แต่เหนื่อย หนาว หาร้านที่อยากกินไม่เจอ และทาคายาม่าหลังตะวันตกดินคือวังเวงมากกกกกก เหมือนทุกคนปิดบ้านนอนกันหมดแล้ว ถ้าใครอยู่ชนบทหรือเคยไปแถวชนบทช่วงหัวค่ำจะเข้าใจค่ะ


แต่ข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อเขาดีกว่าบ้านเราเยอะค่ะ ให้เยอะ กินอิ่ม และราคาถูก คิดซะว่าประหยัดไปได้อีกมื้อนึง (@⌒ー⌒@)b





เรื่องราวในวันนี้ก็จบลงแค่นี้แหละค่ะ พาร์ทต่อไปจะเป็นรีวิวโรงแรมที่ทาคายาม่าที่เราไปพักกันค่ะ



ปิดท้ายด้วยรูปสุดท้ายจากชิราคาว่าโกะ







<<<<<<<<<<<<TBC.>>>>>>>>>>>> 











ข้อมูลเพิ่มเติม



เว็บไซต์ Nohi bus แสดง ตารางเวลาและราคาตั๋วรถบัส จากเมืองต่างๆ ไปทาคายาม่า รวมถึงรถบัสจาก ทาคายาม่าไปชิราคาว่าโกะ ด้วยค่ะ


Travel Arrange Japan เอเจนซี่ที่เราให้เขาจองบัสไปชิราคาว่าโกะให้ แต่จะจองได้หรือไม่นี่อีกเรื่องนึงนะคะ
- จ่ายเงินทางบัตรเครดิต (สามารถใข้บัตร K-web Shopping Card ของธนาคารกสิกรได้)
- ทางเอเจนท์จะขอข้อมูลบัตรเครดิตเราไปเพื่อใช้ในการจอง
- อาจจะมีการทดลองตัดเงินจากบัตรเราเพื่อดูว่าบัตรใช้ได้หรือไม่ และจะคืนให้ในเวลาถัดมา
- มีค่าบริการ 600 เยนต่อกลุ่ม คือราคาตั๋วรวมทั้งหมดเท่าไหร่ก็บวกไปอีก ¥600
- หากจองไม่ได้จะไม่มีการคิดค่าบริการใดๆทั้งสิ้น

** ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราจริงๆ แต่เวลาเปลี่ยน นโยบายและราคาอาจเปลี่ยน กรุณาเช็คข้อมูลที่เป็นปัจจุบันให้ดีก่อนตัดสินใจ


* ล่าสุด เราลองเช็คเว็บ Travel Arrange Japan ดูแล้ว พบว่าบริการจองบัสหรือแท็กซี่ไปชิราคาว่าโกะช่วง light up หายไปแล้ว แต่ทาง Nohi ได้ประกาศทัวร์ light up 2017 แล้วค่ะ


สำหรับทัวร์ Shirakawa-go Light up 2017 ของ Nohi จะจัดขึ้นในวันที่มีไลท์อัพ คือวันที่ 22, 23, 29, 30 มกราคม และวันที่ 5, 6 กุมภาพันธ์ 2017 ค่ะ (เป็นวันอาทิตย์-จันทร์นะคะ ไม่ใช่ เสาร์-อาทิตย์นะ) ทัวร์มี 2 แบบ คือ

1. ตั๋วรถ + ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ราคา 5,000 เยน/คน
ประกอบด้วย
- ตั๋วรถบัสไป-กลับ ทาคายาม่า - ชิราคาว่าโกะ
- ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Gassho Zukuri Minkaen
ต้องโทรไปจองเท่านั้น ที่เบอร์ 0577-32-1688 (สำหรับคนที่โทรจากญี่ปุ่น) +81-577-32-1688 (สำหรับคนที่โทรจากต่างประเทศ)
สามารถจองล่วงหน้าได้ 1 เดือนก่อนวันที่จะไป เช่น จะไปวันที่ 30 ม.ค. จะเริ่มจองได้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.
รายละเอียด

2. ตั๋วรถ + อาหารเย็นแบบท้องถิ่น ราคา 6,200 เยน/คน
ประกอบด้วย
- ตั๋วรถบัสไป-กลับ ทาคายาม่า - ชิราคาว่าโกะ
- ไกด์ชาวญี่ปุ่น
- อาหารเย็นแบบท้องถิ่นที่ภัตตาคาร Gassho ในชิราคาว่าโกะ
ต้องจองทางเว็บและชำระเงินด้วยบัตรเครดิต
สามารถจองล่วงหน้าได้ 2 เดือนก่อนวันที่จะไป
รายละเอียด











Update version 2016.11.14

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น