ระหว่างเดินทางมีแวะข้างทางนิดหน่อยค่ะ เพราะเพื่อนจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำ เลยไปขอเข้าที่บ้านคนแถวนั้น แล้วเขาก็ใจดีให้เข้าด้วยค่ะ ระหว่างที่รอเพื่อนก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย
ลูกปาล์ม
วิวดีมากกกกกก เห็นแล้วอยากมีบ้านอยู่บนเขาเลยค่ะ (〃▽〃)
ถึงแล้วค่ะ แก่งผาได
ใช้เวลาเดินทางจากที่พักประมาณชั่วโมงครึ่ง
ใช้เวลาเดินทางจากที่พักประมาณชั่วโมงครึ่ง
จริงๆ เขาน่าจะเที่ยวกันตรงจุดบริการนักท่องเที่ยวที่อยู่ตรงโน้น แต่คุณลุงดันขับเลยมาซะสุดถนนเลย ( ̄∇ ̄;)
ตรงนี้เป็นแม่น้ำโขงนะคะ อีกฝั่งของแม่น้ำก็เป็นประเทศลาวแล้วค่ะ มีเรือสัญจรไปมาเป็นระยะ เรือโดยสารก็มี
เท่าที่มองดู จากตรงนี้ไปจุดบริการนักท่องเที่ยวก็ดูไม่ไกลเท่าไหร่ เลยตัดสินใจให้คุณลุงไปรอรับที่จุดบริการ ส่วนเราจะเดินเลาะริมแม่น้ำไปกันเองค่ะ
ตอนแรกเราอยู่ข้างบนค่ะ ก็ต้องเดินลงไปก่อน ตอนเห็นก็ว่าเฉยๆ แต่พอเดินจริงนี่สิคะ อื้มหืมมมม หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ (ToT) คือมันไม่ใช่ทางลงปกติอะค่ะ มันไม่มีร่องรอยคนลงไปเลย พื้นปกคลุมด้วยหญ้า ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันหนาแค่ไหน แถมดินยังนุ่มอีกต่างหาก คิดว่าจะถอยกลับ แต่พอหันกลับไปมอง อ้าว รถแท็กซี่กับคุณลุงหายไปแล้ว ก...ก็ลองลงต่อไปละกัน ลงไปได้ก็คงไม่เป็นไรแล้วแหละ ที่เหลือก็เป็นพื้นราบแล้ว น่าจะเดินง่ายขึ้น
ข้างหลังป้าย
ลงมาได้แล้วค่ะ ส่วนเนินนั่นก็คือจุดที่เราอยู่กันในตอนแรกนั่นเอง
ลงมาถึงก็ถ่ายรูปอีกนิดหน่อยแล้วค่อยเดินต่อไปค่ะ จากการประเมินเส้นทางด้วยสายตา ดูเป็นพื้นราบ ดูไม่น่าเดินยาก แต่พอมาเดินจริง อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า (T∇T)
คือเดินยากระดับนึงเลยค่ะ คุณไม่สามารถเดินทอดน่องสวยๆ ได้แน่ พื้นมันเทไปทางแม่น้ำ ไม่เรียบ ดินนุ่ม หญ้าปกคลุมหนา ตอนนั้นคืออยู่ในจุดที่ไปต่อก็ไม่ไหว ย้อนกลับก็ไม่ได้อะค่ะ แต่เพราะย้อนกลับไม่ได้ เลยต้องไปต่อ (T﹏T)
วิวอีกฝั่ง
ใกล้ถึงแล้วค่ะ มีป้ายไอเลิฟยูหันไปทางฝั่งลาวด้วย
เราจะข้ามสะพานนี้ไปกันค่ะ ไม่ข้ามไม่ได้ค่ะ เป็นคูค่ะ ลึกและกว้างอยู่ค่ะ
สภาพสะพานเป็นเหมือนไม้ไผ่สาน
เราจะมาฝึกวิชาตัวเบากันนะคะ (T∇T)
ตรงราวกลางสะพาน มีไม้ดัดเป็นรูปหัวใจเก๋ๆ แต่นี่ไม่มีอารมณ์เก๋แล้วค่ะ ขอแค่ข้ามสะพานไปได้ตลอดรอดฝั่งก็ดีใจแล้ว (T-T)
เรารอดแล้ว!! (T∇T)
มองย้อนกลับไป เห็นอะไรสีแดงๆ ยาวๆ อยู่ลิบๆ มั้ยคะ
นั่นคือป้ายสุดเขตประเทศไทยที่เราลงไปเจอในตอนแรกค่ะ ดูไม่เด่นเลยอะ ถ้าเป็นสีขาวมันน่าจะเด่นกว่ารึเปล่า แล้วหามุมถ่ายรูปดีๆ ไม่ได้เลย นอกจากจะซูม และการซูมด้วยกล้องมือถือก็เป็นอะไรที่พังมาก (T^T)
ใกล้แล้วๆ
ในที่สุด!
ถึงจุดบริการนักท่องเที่ยวแล้วค่ะ
มีที่นั่ง มีมุมถ่ายรูป มีจุดชมวิว มีห้องน้ำ และน่าจะมีร้านค้า ร้านอาหารด้วย แต่เราไม่ได้สำรวจอะไรเลยค่ะ ( ̄∇ ̄;)
เรามาถึงก็นั่งพักให้พอหายเหนื่อย ถ่ายรูปอีกนิดหน่อย เข้าห้องน้ำ แล้วก็ไปต่อค่ะ
ตอนแรกเราก็สงสัยอยู่ค่ะ ว่าทำไมเขาถึงเรียกว่าแก่ง พอไปหาข้อมูลมาถึงได้รู้ว่าแถวนี้ช่วงฤดูแล้ง (พฤศจิกายน - พฤษภาคม) น้ำจะลด แล้วตอจะผุดค่ะ เอ่อ...นั่นแหละ มันก็ตอนั่นแหละ แต่เป็นตอหินค่ะ มีหินรูปทรงต่างๆ จมอยู่ใต้น้ำเต็มเลย พอน้ำลดก็จะโผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นเกาะสวนหินกลางแม่น้ำเต็มไปหมด แต่ช่วงที่เราไปน้ำเริ่มเยอะแล้ว หินพวกนี้ก็กลับลงสู่ใต้บาดาลเหมือนเดิมค่ะ
ออกจากแก่งผาได นั่งรถไปประมาณ 40 นาที คุณลุงก็พามาแวะที่นี่ค่ะ
ห้วยเอียน
มีจุดชมวิวแบบนี้
วิวก็ประมาณนี้
สวยมากกกกกก สวยระดับที่ไม่สามารถบรรยายด้วยภาพได้ สวยแบบนี่หรือประเทศไทย (เอ๊ะ! หรือลาว? ช่างเหอะ คิดซะว่ามันเป็นวิวที่มองเห็นได้จากประเทศไทยละกัน (T∇T))
แถวนี้ก็น่าจะเป็นแก่งเหมือนกันค่ะ เหมือนจะเรียกว่าแก่งผาด้งมั้งคะ สังเกตว่าจะมีกลุ่มหินโผล่ขึ้นมากลางน้ำเป็นหย่อมๆ เหมือนกัน
แถวนี้ก็น่าจะเป็นแก่งเหมือนกันค่ะ เหมือนจะเรียกว่าแก่งผาด้งมั้งคะ สังเกตว่าจะมีกลุ่มหินโผล่ขึ้นมากลางน้ำเป็นหย่อมๆ เหมือนกัน
ดูเสร็จก็ไปต่อค่ะ เราจะยิงยาวไปสามเหลี่ยมทองคำกันเลย ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง ไม่ได้แวะพักเลย และแน่นอนว่าไม่ได้กินข้าวกลางวันค่ะ ดีนะคุณลุงแท็กซี่ซื้อข้าวแต๋นมาให้ถุงนึง (ขอบคุณค่ะ >/\<) เลยรอดไปได้โดยไม่ต้องย่อยกระเพาะตัวเอง
ห้วยเอียน แก่งผาได นี่สวยมากจริงๆ ค่ะ สวยแบบไม่น่าเชื่อว่าประเทศไทยจะมีที่แบบนี้อยู่ด้วย ส่วนตัวแนะนำฤดูฝน เพราะสีมันสดดีค่ะ โดยเฉพาะสีเขียว ดูสดชื่น มีชีวิตชีวาดี แถมยังเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ไม่มีใครมาแย่งเที่ยวด้วย แต่ก็เป็นฤดูที่เสี่ยงพอสมควรเลยค่ะ เสี่ยงฝนตก เที่ยวไม่ได้ อันตรายเวลาเดินทาง ช่วงที่ค่อนข้างโอเคน่าจะเป็นช่วงต้นฤดูฝน แต่อย่าต้นเกินระดับช่วงเปลี่ยนฤดูนะคะ เพราะช่วงนั้นฝนจะตกเยอะ ประมาณครึ่งหลังของเดือนมิถุนาถึงเดือนกรกฎาน่าจะกำลังดีค่ะ ฝนน่าจะยังไม่ชุก น้ำป่าน่าจะยังไม่มา แต่ถ้าใครอยากสัมผัสอากาศหนาวแบบที่ประเทศไทยไม่น่าจะมี อยากเห็นความเป็นแก่งที่แท้จริง อยากเห็นสวนหินกลางน้ำ แนะนำฤดูหนาวเลยค่ะ (@⌒ー⌒@)b
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น