Komayu: Summer Cuisine ::: คลายร้อนกับข้าวแช่ที่ S&P

พอเข้าหน้าร้อน เราก็มักจะคิดถึงอาหารที่ช่วยคลายร้อนได้ อย่างไอศกรีม หรือน้ำผลไม้ปั่นเย็นชื่นใจ แต่นอกจากน้ำหรือของหวานแล้ว เรายังมีอาหารคาวแบบไทยๆ ที่ทานแล้วสดชื่นคลายร้อนได้ไม่แพ้กัน นั่นก็คือข้าวแช่ค่ะ

ข้าวแช่ อาหารไทยชาววัง ที่มีวิธีทำที่พิถีพิถัน ทั้งวิธีทำให้ข้าวสุก ที่ต้องหุงแบบยังไม่ให้สุกดี เพื่อล้างเมือกเหนียวๆ ออกจากข้าว แล้วจึงนำไปนึ่งให้สุกจริงๆ อีกที ในส่วนของกับข้าว ที่ขาดไม่ได้คงเป็นกะปิทอด ส่วนพวกพริกหยวกหรือหอมแดงยัดไส้ หมูหวาน หมูทอด ไชโป๊วผัด ก็แล้วแต่ว่าเจ้าไหนจะใส่อะไรมาบ้างค่ะ และเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ก็คือผักสด ที่มักจะเพิ่มความพิเศษด้วยการแกะสลักค่ะ

แต่จริงๆ แล้ว เขาว่าข้าวแช่เป็นอาหารประจำประเพณีสงกรานต์ของชาวมอญแหละค่ะ โดยในวันที่ 13 เมษายน หรือวันมหาสงกรานต์ ชาวมอญจะจัดข้าวแช่ครบชุดไปถวายพระและเทพีสงกรานต์เพื่อความเป็นสิริมงคล พอชาวมอญเข้ามาอยู่ในไทย ข้าวแช่เลยกลายเป็นที่รู้จักไปด้วยค่ะ

สำหรับช่วงฤดูร้อนนี้ ทางร้าน S&P ก็ได้จัดให้มีเทศกาลข้าวแช่ เป็นเมนูพิเศษประจำฤดูร้อน ซึ่งจะมีขายถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 นี้เท่านั้นค่ะ

สำหรับเมนูข้าวแช่ของ S&P จะเสิร์ฟมาพร้อมกะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ปูจ๋า หมูฝอยหวาน ไชโป๊วหวาน และผักสดแกะสลักค่ะ ตัวข้าวแช่สามารถเลือกได้ระหว่างข้าวแช่หอมมะลิหรือข้าวแช่หอมมะลิใบเตย ซึ่งจะเสิร์ฟมาในน้ำกลิ่นดอกมะลิค่ะ

ข้าวแช่ของ S&P สนนราคาชุดละ 225 บาท หรือจะจัดเซ็ตมากับของหวานประจำฤดูกาล อย่างข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ ราคาก็จะขยับขึ้นมานิดหน่อยเป็น 295 บาทค่ะ (ราคายังไม่รวม Service Charge 10% นะคะ)

และอย่างที่รู้ๆ กัน ว่าช่วงนี้เป็นหน้ามะม่วง และมะม่วงสุกหอมหวานก็เข้ากับฤดูร้อนได้ดีซะด้วย ทาง S&P เขาก็มีเทศกาลข้าวเหนียวมะม่วงและเทศกาลน้ำดอกไม้ด้วยเหมือนกันค่ะ เป็นเมนูของหวานและสมูทตี้ที่มีส่วนผสมของมะม่วงน้ำดอกไม้หวานฉ่ำ ซึ่งมีขายแค่ช่วงฤดูกาลนี้เท่านั้น โดยจะมีขายถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 เหมือนกับข้าวแช่ค่ะ

เมนูข้าวแช่และมะม่วงนี้อาจไม่ได้มีทุกสาขานะคะ ส่วนตัวคิดว่าสาขาที่เป็นร้านอาหารด้วยน่าจะมี แต่ทางที่ดีโทรไปเช็คก่อนดีกว่าค่ะ หรือจะสอบถามจากทาง Facebook ของร้านก็ได้ค่ะ เท่าที่สังเกตดู เราว่าเขาตอบไวอยู่นะ

ส่วนเราไปทานที่สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 ชั้น 6 ค่ะ ที่นี่เข้าถึงง่ายค่ะ ขึ้น MRT มาลงที่สถานีพระราม 9 จะมีทางเชื่อมเข้าห้างจากชั้นใต้ดินเลยค่ะ

การตกแต่งร้าน ด้านหน้าจะเป็นโต๊ะวางขนมอบ ร้านจะแบ่งเป็น 2 โซนซ้ายขวา ฝั่งนึงเป็นร้านเบเกอรี่ ฝั่งนึงเป็นร้านอาหาร และมีเคาน์เตอร์ BlueCup Coffee อยู่ด้านในสุดค่ะ

พอเข้ามานั่งที่โต๊ะ พนักงานก็จะนำเมนูมาให้ค่ะ

พอสั่งอาหารเสร็จ ก็จะมีชุดกระดาษรอง ช้อนส้อม และทิชชู่มาให้แบบนี้

เราสั่งเป็นเซ็ตข้าวแช่หอมมะลิใบเตย + ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ และสั่งเครื่องดื่มเป็นมะม่วงสดสาคูสมูทตี้มาค่ะ พนักงานจะถามว่าจะรับข้าวเหนียวมะม่วงเลยมั้ย เราเลยขอให้เอามาเสิร์ฟทีหลังค่ะ

หลังจากนั้นก็รอค่ะ รออาหารค่อนข้างนานอยู่ อาจเพราะวิธีการทำมันยุ่งยากละมั้ง ตัวข้าวน่าจะทำไว้แล้ว แต่กับบางอย่างน่าจะทำสด ตอนที่เราไป ร้านยังไม่ถึงกับเต็ม แต่ก็มีนั่งกันหลายโต๊ะอยู่ค่ะ

มาแล้วค่ะ ข้าวแช่กับสมูทตี้มาพร้อมกันเลย จริงๆ อยากให้ทยอยมามากกว่านะ

ข้าวแช่จะปิดถ้วยมาแบบนี้ กับข้าวแช่และสมูทตี้ก็จัดได้สวยงามน่าทานทีเดียวค่ะ

แค่แง้มฝา กลิ่นหอมของดอกมะลิก็ลอยมาเตะจมูกแล้วค่ะ เปิดออกมา ข้าวแช่หอมมะลิใบเตยจะเป็นสีเขียวแบบนี้ค่ะ ทางร้านใส่น้ำแข็งมาให้ด้วย เพื่อความเย็นชื่นใจ

ข้าวแช่หอมมะลิใบเตย ชุดละ 225 บาท หรือสั่งคู่กับข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ในราคา 295 บาทค่ะ

กับข้าวแช่
(วนตามเข็มนาฬิกา)

ลูกกะปิทอด ยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลองทานข้าวแช่ค่ะ เห็นคำว่ากะปิเลยแอบกลัวๆ เพราะเราไม่ค่อยชอบกลิ่นเท่าไหร่ แต่ของที่นี่แทบไม่มีกลิ่นกะปิเลยค่ะ กลิ่นที่นำออกมาเป็นกลิ่นสมุนไพร คิดว่าน่าจะเป็นกระชาย ลูกกะปิทอดจะผสมเนื้อปลาด้วย ของที่นี่จะใช้ปลาเนื้ออ่อนค่ะ รสหวานนำ แต่อร่อยค่ะ
พริกหยวกสอดไส้ปูจ๋า เป็นกับที่รสเบาที่สุดในบรรดากับทั้งหมด และไม่เผ็ดค่ะ ไส้จะเป็นปูผสมไก่ มีรสของปู และเห็นเนื้อปูเป็นชิ้นๆ อยู่ในไส้จริงๆ ค่ะ
หมูฝอยหวาน ตอนแรกนึกว่าจะเป็นแบบหนึบๆ แต่จริงๆ เป็นแบบกรอบ ซึ่งเป็นแบบที่เราชอบมาก ตัวหมูฝอยหวานจะโรยหอมเจียวมาด้วยค่ะ
ไชโป๊วหวาน ตัวไชโป๊วจะค่อนข้างเค็มค่ะ ถึงจะอร่อย แต่รสก็ค่อนข้างจัด เลยเป็นเมนูเดียวที่เราทานไม่หมดค่ะ
ผักสด ประกอบด้วยใบผักสลัดอะไรสักอย่าง กรีนโอ๊ครึเปล่า(?) ห่อไชโป๊วหวานมา แล้วก็ต้นหอม แครอท มะม่วงดิบ กระชาย และพริกชี้ฟ้าแกะสลักค่ะ

วิธีทานข้าวแช่ที่ถูกต้อง เพื่อรสชาติที่ดี

ตักกับทานก่อน
ทานข้าวแช่ตาม
ซดน้ำข้าวแช่หอมๆ เย็นๆ เพิ่มความสดชื่น

ทำแบบนี้จะทำให้น้ำข้าวแช่ไม่มัน และไม่เสียกลิ่นรสค่ะ ที่นี่เขาจะให้ตะเกียบมาคีบกับด้วย เลยทานง่ายขึ้นอีก

มาต่อกันที่เครื่องดื่มค่ะ

มะม่วงสดสาคูสมูทตี้ (฿135)

สมูทตี้ตกแต่งด้วยชิ้นมะม่วงสด 3 ชิ้น รสค่อนข้างเปรี้ยว และใบสะระแหน่ค่ะ จากรูปโปรโมทจะมีชิ้นเนื้อมะพร้าวอ่อนโปะอยู่ข้างบนด้วย ถึงของเราจะไม่มี แต่ดูดไปก็เจอนะคะ

มะม่วงสดสาคูสมูทตี้ เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้สุกปั่น รสหวานอมเปรี้ยว ดื่มแล้วสดชื่น ตัดกับสาคูในน้ำกะทิรสเค็มๆ มันๆ เคี้ยวนุ่มๆ หนุบๆ ที่อยู่ข้างล่าง อร่อยมากค่ะ สาคูก็เหมือนๆ ไข่มุกใส่เครื่องดื่มแบบเม็ดเล็กนั่นแหละค่ะ ไม่ได้แปลกใหม่ขนาดนั้น ความแปลกจะอยู่ที่กะทิกับมะม่วง ที่รสต่างกันแบบสุดขั้ว บางคนอาจรับไม่ได้ แนะนำให้สั่งเป็นเฟรชแมงโก้สมูทตี้ ถ้าอยากดื่มอะไรที่เป็นมะม่วง รสเปรี้ยวๆ หวานๆ ดื่มแล้วสดชื่น หรือโคโค่ไอศกรีมแมงโก้สมูทตี้ ถ้าอยากดื่มอะไรหวานๆ มันๆ แทนค่ะ

วิธีดื่มมะม่วงสดสาคูสมูทตี้ แนะนำให้ดื่มแบบกาแฟมัคคิอาโตเย็นค่ะ คือใช้หลอดดูดไล่จากข้างล่างขึ้นข้างบน จะได้สาคูนุ่มๆ หนุบๆ รสหวานมันของกะทิ ปิดท้ายด้วยรสหวานอมเปรี้ยวชื่นใจของมะม่วง ถ้าเอาหลอดจุ่มลงไปดูดตามปกติเกรงว่าจะได้แต่สาคูกับกะทิค่ะ แต่ถ้าใครรำคาญ ขี้เกียจยุ่งยาก จะจับคนให้เข้ากันแล้วดูดพร้อมกันทีเดียวไปเลยก็ได้ค่ะ

ทานข้าวแช่ใกล้หมด ก็บอกให้เขาเอาข้าวเหนียวมะม่วงออกมาต่อค่ะ

ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ 135 บาท หรือจะสั่งเป็นชุดรวมกับข้าวแช่ในราคา 295 บาทก็ได้ค่ะ

ตัวข้าวเหนียวมูนเป็นข้าวเหนียวใบเตยกับข้าวเหนียวดอกอัญชันค่ะ โรยด้วยถั่วเขียวกะเทาะเปลือกสีทองกรุบกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกะทิสำหรับราด และมะม่วงน้ำดอกไม้สุกหวานฉ่ำค่ะ

สรุปแล้ว ทั้ง 3 เมนูนี้ ชื่อ S&P ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ค่ะ (〃∇〃)

เมนูข้าวแช่และมะม่วง (บางเมนู) มีบริการ Delivery ด้วยนะคะ สำหรับคนที่ไม่อยากออกไปไหนท่ามกลางอากาศร้อนๆ จะสั่งมาทานที่บ้านก็สะดวกดีค่ะ สามารถโทรสั่งได้ที่เบอร์ 1344 หรือจะ สั่งออนไลน์ ก็ได้ค่ะ มีค่าส่ง 40 บาท

สิทธิพิเศษ

สำหรับผู้ถือบัตร S&P JOY CARD รับส่วนลด 15% เมื่อสั่งเมนูในกลุ่มเทศกาลข้าวแช่ และเทศกาลน้ำดอกไม้ (สงวนสิทธิ์เฉพาะทานที่ร้านและซื้อกลับบ้านเท่านั้น)
ใช้จ่ายผ่าน บัตรเครดิตและบัตรเดบิต บีเฟิสต์ ธนาคารกรุงเทพ รับส่วนลด 15% ทุกเมนู เมื่อทานครบ 300 บาทขึ้นไปต่อ 1 ใบเสร็จ (สงวนสิทธิ์เฉพาะทานที่ร้านเท่านั้น และงดร่วมรายการส่งเสริมการขายและบัตรส่วนลดอื่นๆ ค่ะ)