วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

Where to Stay in BANGKOK ::: #2 ORA Hostel



Where to Stay in BANGKOK รอบนี้ เราขอเสนอ...


ORA Hostel Bangkok ค่ะ

เดินทางสะดวก ใกล้ BTS สะพานควาย ลงตรงทางออก 3 แล้วเดินไปอีกหน่อยก็ถึงแล้วค่ะ ที่พักจะอยู่ในซอย แต่ไม่ลึก หน้าปากซอยมีเซเว่นอยู่ ถือว่าทำเลดีทีเดียวค่ะ




ภายในตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสไตล์...Japanese Loft...รึเปล่านะ? โทนสีหลักๆ จะเป็นสีขาว ไม้สีอ่อน และปูนเปลือย มีความดิบ มีความอบอุ่น มีความละมุน ปนๆ กันไป ถึงความเป็นจริงจะเป็นแค่ตึกแถวเก่าๆ หนึ่งคูหา แต่ก็สวย สะอาด น่าพักมากค่ะ




ที่โต๊ะตรงล็อบบี้นี่จะมีปากกากับกระดาษโพสท์อิทให้เขียนความรู้สึกแปะที่ผนังด้วยค่ะ เสียดายตอนเช็คเอาท์เรารีบ เลยไม่ได้เขียนอะไรไว้เลย




มี Wi-fi ฟรีให้ แต่วันที่เราไปเน็ตจะใช้ไม่ได้ถึงเที่ยงคืน แต่ไม่เป็นไรค่ะ เรามีเน็ตมือถือแบบไม่อั้นอยู่




ท็อปโต๊ะเป็นกระจกใส เผยให้เห็นหนังสือที่จัดเรียงไว้ใต้โต๊ะสำหรับให้แขกของที่พักอ่านเล่น และกลายเป็นของตกแต่งไปด้วยในตัว




ที่นี่มีกาแฟสดขายด้วยนะคะ




ตอนเช้าเขาจะจัดอาหารเช้าไว้ตรงนี้ค่ะ อาหารเช้าเท่าที่เราจำได้จะมีขนมปัง กับแยม 2-3 รส แล้วก็ซีเรียล 2 รส เวลาอาหารเช้าจะเริ่ม 7 โมงครึ่งค่ะ แต่เราไม่ได้กิน เพราะต้องออกเช้ากว่านั้น จริงๆ บอกเขาได้ค่ะ เขาจะเตรียมไว้ให้ แต่เราไม่อยากรบกวนเขา และคงไม่มีเวลากินด้วยค่ะ




มุมเครื่องดื่ม มีตู้กดน้ำเย็น - น้ำร้อน ชา กาแฟ โอวัลติน และแก้วให้ค่ะ ชงดื่มเองได้ตลอดเวลา




ครีมเทียม น้ำตาล ชา กาแฟ






ที่นี่ต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นที่พักด้วยนะคะ เขามีสลิปเปอร์สีขาวให้ด้วย แต่เราไม่ได้ใช้ค่ะ และพบว่าพื้นเขาสะอาดดีทีเดียว









ขึ้นมาชั้นลอยจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นค่ะ มีทีวี บีนแบ็ก หนังสือ และเกมส์ให้เล่น






ถัดมาตรงเคาน์เตอร์ มีแครกเกอร์ไส้สับปะรดกับขาไก่ให้กินเล่นได้ทั้งวันค่ะ




ตรงนี้จะเป็นห้องพักเดี่ยวแบบส่วนตัวค่ะ

ที่นี่จะมีห้องพักส่วนตัวพร้อมห้องน้ำส่วนตัวแบบเตียงใหญ่ที่นอนได้ 2 คน และเตียงเดี่ยวสำหรับนอนคนเดียวด้วยค่ะ







ห้องพักของเราอยู่ที่ชั้น 4 ค่ะ

ห้องนึงเป็นห้องนอนรวม ส่วนอีกห้องเป็นห้องส่วนตัวแบบเตียงใหญ่ค่ะ เรารู้เพราะเราเห็นเขาเปิดห้องทิ้งไว้หลังจากเช็คเอาท์ออกไปตอนเช้า และสังเกตได้จากเลขห้องด้วย เลขตัวแรกคือเลขชั้น ส่วนสองตัวหลังคือจำนวนคนที่ห้องนั้นรับได้ค่ะ

ตอนแรกเราจองห้องรวมแบบ 12 คนไปค่ะ จองจาก Agoda ได้มาในราคา 1 คืน 374 บาท แต่เขาให้เรามานอนห้อง 6 คน ซึ่งราคาแพงกว่าแทน โดยไม่ต้องเพิ่มเงินค่ะ ส่วนตัวคิดว่าแขกคงน้อย เลยให้ใช้ห้อง 6 คนแทน เพราะห้องน่าจะเล็กและประหยัดกว่า ถึงจะเป็นห้อง 6 คน แต่ก็มีนอนแค่ 4 เตียงเองค่ะ ตอนกลางคืนเราเดินผ่านชั้น 2 ดูมืดๆ เงียบๆ เลยคิดว่าคงไม่ได้เปิดห้อง 12 คนจริงๆ




กุญแจค่ะ ระบบล็อคของประตูห้องและประตูเข้าที่พักเป็นของซัมซุง คีย์การ์ดเลยตีตราแบรนด์ซัมซุงไว้อย่างงี้ค่ะ





ห้องพักแบบ 6 เตียง เตียงไหนมีคนจับจองแล้วก็ปิดม่านแสดงความเป็นเจ้าของซะ

ปกติเวลานอนเตียงสองชั้นเราจะชอบนอนเตียงบนค่ะ แต่บันไดของที่นี่มันคร่อมระหว่าง 2 ช่อง รู้สึกปีนยาก ดูเสี่ยงชีวิตแปลกๆ เลยขอนอนเตียงล่างดีกว่าค่ะ





ล็อคเกอร์เก็บของ ใส่กระเป๋าลากขนาด 20 นิ้วได้ ส่วนของใครใบใหญ่ๆ ก็ตั้งทิ้งไว้ข้างนอกนั่นแหละค่ะ เท่าที่เห็นก็ไม่มีใครยุ่งกับของคนอื่นนะคะ




ใต้เตียงจะมีช่องเก็บของเล็กๆ ให้อีกค่ะ

ในช่องนอนแต่ละช่องจะมีไฟ ปลั๊กไฟ และราวแขวนให้ค่ะ ผ้าห่มเป็นแบบบาง แต่ก็อุ่นสบายกำลังดี ปกติโฮสเทลจะไม่ค่อยหนาวอยู่แล้วค่ะ เพราะนอนกันหลายคน และการปิดม่านก็ทำให้แอร์เข้ามาในช่องนอนได้น้อยลงด้วย หมอนตอนแรกเห็นรู้สึกว่าดูสูงไป แต่พอนอนแล้วกลับยุบลงตามหัว ไม่พยายามสู้หัวเราด้วย ถือว่าดีค่ะ

สำรวจห้องเสร็จ พบว่าไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ ความคิดตอนนั้นคือแย่ละ ไม่ได้เอามาด้วย กะมาพึ่งผ้าเช็ดตัวโรงแรมอย่างเดียวเลย เพราะมันฟู เปลืองพื้นที่ในกระเป๋า แถมยังต้องยัดใส่กระเป๋าทั้งที่ชื้นๆ หลังใช้เสร็จด้วย

แต่พอคิดๆ ดูแล้ว โฮสเทลที่สวยหรูดูดีขนาดนี้ เขาจะไม่มีผ้าเช็ดตัวให้จริงๆ เหรอ มันควรจะมีสิ ให้เช่าก็ยังดี เลยลองไปถามเขาดู สรุปว่ามีค่ะ ถ้าเป็นห้องนอนรวมจะให้เช่าผืนละ 20 บาท แต่ถ้าเป็นห้องส่วนตัวจะมีให้เลยค่ะ

เราก็เข้าใจแหละค่ะ ว่าเขามีต้นทุนในการซัก เพราะต้องส่งซัก และผ้าเช็ดตัวที่ใช้ก็เป็นผ้าเช็ดตัวเกรดโรงแรมด้วยค่ะ ที่เป็นสีขาว ผืนหนาๆ หนักๆ ไม่เป็นขุย และซับน้ำได้ดีนั่นหละค่ะ ถ้าเขาให้ใช้ผ้าเช็ดตัวฟรี ค่าที่พักก็อาจจะแพงขึ้นไปอีก






มาดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ ชั้น 3-4 จะมีห้องน้ำให้ชั้นละ 2 ห้อง และมีอ่างล้างหน้ากับกระจกให้ข้างนอกชุดนึงอย่างงี้ค่ะ




บานประตูเป็นแบบนี้ มีที่ล็อคเป็นสลักแบบนี้ เก๋ดีค่ะ เราชอบ



ในห้องน้ำจะมีทั้งชักโครก อ่างล้างหน้า และฝักบัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นให้เลย


ห้องนึงเป็นแบบห้องเล็ก พื้นที่อาบน้ำแทบจะซ้อนกับชักโครก คนเลยไม่ค่อยนิยมอาบห้องนี้กันค่ะ





ส่วนอีกห้องจะกว้างกว่า และมีพื้นที่อาบน้ำให้

ในห้องอาบน้ำจะมีสบู่เหลวกับแชมพูใส่ที่กดไว้ให้ค่ะ




ส่วนนี่เป็นห้องอาบน้ำอย่างเดียวที่ชั้นสองค่ะ ชั้นสองจะมีห้องอาบน้ำกับห้องสุขาแยกกัน

ข้อเสียของห้องอาบน้ำที่นี่คือน้ำฝักบัวไม่ค่อยแรงค่ะ อาบไม่ค่อยฟิน แอบรู้สึกลำบากนิดๆ ด้วย






ลงไปดูชั้นล่างกันค่ะ ที่นี่ไม่มีลิฟต์นะคะ มีถังดับเพลิงติดตั้งไว้ตรงบันได



ชั้น 3
ห้องน้ำเหมือนกับชั้น 4 ห้องพักก็เช่นกัน เป็นห้องส่วนตัวแบบเตียงใหญ่ห้องนึง กับห้องนอนรวมอีกห้องนึง อาจจะเป็นห้องนอนรวม 6 คน สำหรับผู้หญิงค่ะ






ชั้น 2


ตรงนี้เป็นห้องเดี่ยวแบบส่วนตัวค่ะ



ส่วนนี่คือห้องนอนรวม 12 เตียงค่ะ







เช็คอิน 14:00 - 23:00
เช็คเอาท์ไม่เกิน 11 โมง
ใครจะเช็คเอาท์แต่เช้า อาจไม่มีคนเฝ้าหน้าเคาน์เตอร์ เขาจะวางกล่องใส่กุญแจไว้ให้ค่ะ

อาหารเช้า 7:30 - 10:00

งดใช้เสียงช่วง 23:00 - 8:00

ห้ามนำอาหารหรือเครื่องดื่มเข้าไปในห้องพัก

ห้ามสูบบุหรี่ในที่พัก ให้สูบในที่ที่จัดไว้ให้







สามารถมองเห็นที่พักได้จากชานชาลารถไฟฟ้าเลยค่ะ เห็นตึกแถวช่องที่ข้างหน้าเป็นไม้ๆ มั้ยคะ นั่นหละค่ะ ที่พักของเรา



นี่เป็นการนอนโฮสเทลห้องรวมครั้งแรกของเราเลยค่ะ แถมยังเป็นห้องรวมชายหญิงด้วย เพราะช็อตมาก เลยต้องเอาให้ถูกที่สุดไว้ก่อน ที่นี่อาจไม่ใช่ที่ที่ถูกที่สุด แต่มันตอบโจทย์เราที่สุด ภายใต้งบประมาณที่เรามีค่ะ

ลักษณะของที่พักก็จะกรองแขกได้ด้วยระดับนึงค่ะ แขกของที่นี่ดีมาก อยู่แบบต่างคนต่างอยู่ มีความเกรงใจ ไม่ทำเสียงดัง ถึงจะเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว นอนห้องรวมชายหญิง แต่ก็ให้ความรู้สึกปลอดภัยสบายใจไม่แพ้ห้องส่วนตัวเลยค่ะ













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น