เหตุผลหลักๆที่เรามาย่านนัมบะคือ...
1.
มาให้รู้ว่ามันเป็นยังไง และพบว่า
มันก็ตามแพทเทิร์นของย่านช็อปปิ้งของญี่ปุ่นแหละค่ะ
มีทางเดินแบบเปิดพร้อมหลังคา สองฝั่งทางเดินเป็นร้านค้า
ส่วนในร้านจะติดแอร์หรือไม่ก็แล้วแต่ร้าน
2. มาหามื้อกลางวันกินค่ะ มาโอซาก้าก็คงไม่พ้นร้านปูชื่อดัง คานิ โดราคุ (かに道楽: Kani Doraku) สาขาที่เราไปเป็นร้านดั้งเดิมเลย อยู่ใกล้ๆ กับป้ายกูลิโกะอันเลื่องชื่อ
ไปถึงร้านประมาณเกือบๆ บ่ายโมง เดินไปรับบัตรคิว ต้องรออีก 1 ชั่วโมง
เหมือนเขาจัดเป็นรอบๆ และเตรียมบัตรคิวเขียนบอกเวลาไว้เรียบร้อย
ไม่มีมาเฝ้าหน้าร้านรอเรียกคิวที่ไม่รู้ว่าจะมาถึงเราเมื่อไหร่
พอรู้เวลาที่จะได้กินชัดเจน เราก็สามารถไปเดินเล่นฆ่าเวลาไปก่อนได้
ระหว่างรอกิน เราก็ไปเดินเล่นก่อนค่ะ จากที่หาข้อมูลมา EXILE TRIBE STATION
ก็อยู่แถวๆนี้แหละ (ใครไม่รู้จักสิ่งนี้ เลื่อนผ่านไปได้เลยค่ะ) นี่ก็เปิด
Google Map ให้นำทางไป ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที โฮกกกกกกกก
ไหนจะขากลับอีกล่ะ โฮกกกกกกกกกก เดินไป 20 นาที เดินกลับ 20 นาที ไหนจะหลง
ไหนจะต้องรีบวิ่งกลับมาให้ทันเวลากินอีก แต่ถามว่าสู้มั้ย? สู้ค่ะ
ไม่มีอะไรเกินกำลังติ่งอยู่แล้ว
เดินไปค่ะ ระหว่างทางเจอหนุ่มน้อย 2 คน ให้ความรู้สึกเหมือนเด็ก EXPG
พวกนางก็เดินคุยกันไปพลางทำท่าทำทางเหมือนเต้นไปด้วย
เหมือนคุยกันเรื่องเต้นน่ะค่ะ ไม่ต้องสืบแล้วค่ะ ใช่แน่ๆ
เดินตามพวกนางไปเลยแล้วกัน แต่สุดท้ายก็แยกกัน
เพราะเส้นที่พวกนางไปมันไม่ตรงกับในแผนที่ พวกนางคงกำลังไป EXPG
ที่อยู่อีกทาง แล้วตอนที่เราไปถึง เราก็ไม่เห็น EXPG อยู่ในรัศมีสายตาเลยด้วย
ใกล้แล้วค่ะ เห็นอะไรลิบๆมั้ย
ในที่สุดเราก็มาถึง ช็อปสาขาโอซาก้าจะเป็น 24karats อยู่ชั้นล่าง มีซอกเล็กๆข้างๆ พร้อมบันไดขึ้นไปไทรบ์สเตที่อยู่ชั้นบน วันและเวลาที่เราไปมีของครบ คนน้อย น่าช็อปมากเลยแหละ แต่พอคิดว่าเดี๋ยวเราก็ไปโตเกียว จะแบกไปทำไม ไปซื้อที่โตเกียวทีเดียวเลยดีกว่า ก็เลยกลับออกมามือเปล่า
อ้อ ลืมบอกไป เขาห้ามถ่ายรูปในร้านนะคะ มันถึงมีแต่รูปหน้าร้านเช่นนี้แล
กลับจากไทรบ์สเต วิ่งกระหืดกระหอบกลับมาทันเวลากินพอดี จริงๆก็ไม่ได้วิ่งหรอกค่ะ เดินเร็วๆ พอรู้ทางแล้ว ขากลับเลยไม่เป็นปัญหา แล้วเราก็ตั้งให้มือถือแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาที่ควรกลับไปไว้ด้วย
มาถึงก็ยืนงงๆ อยู่หน้าร้าน เรามาก่อนเวลาที่เขียนไว้ประมาณ 5 นาที เลยไม่แน่ใจว่าเข้าได้รึยัง หลังจากยืนงงอยู่พักนึงก็ลองไปยื่นบัตรคิวให้พนักงานหน้าร้านดู เขาก็พาเราเข้าไปค่ะ
ตัวร้านอาหารจะอยู่ชั้น 2 ค่ะ พนักงานจะพาเราขึ้นลิฟท์ไป พนักงานเสิร์ฟที่นี่เป็นผู้หญิงแต่งชุดกิโมโนค่ะ จากที่นั่งของเราเห็นวิวคลองโดทงโบริด้วย ถ้าเป็นกลางคืนบรรยากาศคงดีมาก แต่ก็นั่นแหละค่ะ ร้านนี้ราคาไม่ใช่เล่นๆ เราเลยเลือกมากินเป็นมื้อกลางวันแทน เพราะมันจะมี Lunch Set ที่เราจะได้ชิมโน่นนิดนี่หน่อย เราจะได้ชิมอาหารหลากหลายเมนูในราคาที่เรารับได้
พอเรามานั่ง พนักงานก็เอาทิชชู่เปียกกับชาเขียวมาให้ พร้อมเมนูอาหารแบบแท็บเล็ต ที่สามารถเลือกภาษาได้ เราไม่แน่ใจว่ามีภาษาอะไรมั่งนะคะ เราสั่งเซ็ตเมนูที่เรียกว่า อะคาเนะ (茜: Akane) ราคารวมภาษี 2,700 เยน (ตอนนี้ขึ้นราคาเป็น 2,808 เยนแล้วค่ะ) จริงๆแล้วเราเล็งเมนูที่อยากกินจากในเว็บไว้ตั้งแต่ก่อนไปแล้วค่ะ พอไปถึงก็เปิดเมนูแล้วชี้ให้เขาดูเลย
สั่งไปไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ เริ่มต้นด้วยปูต้ม เสิร์ฟแบบเย็น จิ้มน้ำส้มสายชูรสเปรี้ยวอมหวาน ก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ
พอเรากินใกล้หมด เมนูต่อไปก็มาต่อคิวรอเลยค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะขาดตอน
คราวนี้มาเป็นแพ็คคู่ ได้แก่ ไข่ตุ๋นปูกับกราแตงปูค่ะ
ระหว่างที่เราเริ่มกินเมนูใหม่ พนักงานก็จะมาเก็บจานที่กินหมดแล้วออกไป
ตามด้วยปูเผา
ซูชิปู (คำใหญ่มากกกกกก)
ซุปมิโสะ
ปิดท้ายด้วยมะนาวล้างปาก และผ้าเช็ดมือผืนใหม่
สำหรับเซ็ตเมนูนี้ ใครไม่อิ่มไม่รู้ แต่เราอิ่มมากค่ะ ตอนกินซูชินึกว่าจะไม่รอดแล้ว (T^T)
กินเสร็จก็ลงไปจ่ายเงินที่ชั้น 1 ค่ะ มีลูกอมให้ด้วย เป็นลูกอมรสผลไม้ที่ให้ความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่อฟันแปลกๆ
เหมือนจะทำให้ฟันผุง่ายกว่าลูกอมทั่วไป ส่วนตัวคิดว่าถ้าเป็นลูกอมรสมิ้นท์แบบที่ร้านอาหารในไทยชอบแจกกันน่าจะดีกว่าค่ะ
ออกมาจากร้านประมาณบ่ายสามกว่า ตอนแรกแพลนไว้ว่าจะไปบัมพาคุคิเน็นโคเอ็งด้วย (万博記念公園: Bampaku-kinen-kouen)
ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
พอสายกว่าที่ตั้งใจไว้เลยคิดจะตัดออกจากแพลน แต่พอคิดไปคิดมา อืม
อาจจะทันก็ได้ เลยตัดสินใจไปค่ะ
つづく
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น