เราอยู่ที่นาโกย่ากัน 2 คืนค่ะ โดยพักที่ Eco Hotel Nagoya ราคา 8,000 เยน สำหรับห้อง 2 คน 2 คืน
ที่พักอยู่ใกล้สถานีนาโกย่า มีเซเว่นอยู่ข้างๆ มีร้านอาหารอยู่รอบๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอิซากายะ (ร้านเหล้า) อยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวอดตายค่ะ
ที่นี่จะคล้ายๆพวก hostel แหละค่ะ แต่ดีกว่าตรงที่มีห้องแยกให้ ไม่ต้องนอนรวมกับใคร เป็นห้องเดี่ยวมั่ง คู่มั่ง ห้องเล็ก ไม่หรู แต่ก็อยู่ได้สบายๆนะ
ในห้องมีผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟันพร้อมยาสีฟัน และรองเท้าแตะให้ แปรงสีฟันที่ญี่ปุ่นนี่หัวเล็กๆทั้งนั้นเลย ยังกะแปรงเด็กแน่ะ คนที่นี่เขาใช้แบบนี้กันหรอ
แล้วก็มีไม้แขวนเสื้อให้ 3-4 อันมั้ง แต่เราก็ต้องเสริมของตัวเองกันอยู่ดี
ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม แต่แยกเป็นห้องๆให้ อยู่ชั้นใต้ดิน มีลิฟท์ลงไป แต่ละชั้นจะมีห้องสุขา (แยกชาย-หญิง อย่างละห้อง ชักโครกเป็นแบบไฮโซนะคะ แบบที่มีปุ่มกดให้มันล้างให้อะ เหมือนญี่ปุ่นเขาจะใช้กันแต่แบบนี้ อย่าได้คาดหวังสายฉีดแบบแมนนวลอย่างบ้านเรา) กับซิงค์ให้ใช้รวมกันทั้งชั้น
ส่วนที่ชั้นอาบน้ำ จะมีหวี คอตตอนบัด และทิชชู่ให้ น่าจะมีอย่างอื่นอีกแต่นึกไม่ออก มีเครื่องซักผ้ากับเครื่องอบผ้าแบบหยอดเหรียญให้อย่างละ 2 ตู้มั้ง เครื่องซักผ้าน่าจะ 200 เยน ถ้าจำไม่ผิด เหมือนมันถูกกว่าที่โตเกียว แต่เรายังไม่ได้ซักที่นี่ไง แล้วก็มีที่นั่งแต่งตัว มีกระจกกับไดร์เป่าผมให้ด้วย เพื่อนบอกว่าไดร์เป่าผมที่โรงแรมญี่ปุ่นเริ่ดมากกกกก คือลมแรงจริง ไม่ใช่ลมเอื่อยๆแบบตามโรงแรมในไทย โซนอาบน้ำนี่ใช้รวมหญิงชายเลยนะคะ แต่เขาแยกเป็นห้องๆให้ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก(มั้ง?)
ห้องน้ำแยกเป็นห้องๆ
แต่ละห้องแบ่งเป็นโซนเปียกสำหรับอาบน้ำ และโซนแห้งสำหรับแต่งตัว
เปิดเข้ามาจะเจอโซนแห้งก่อน พื้นเป็นพรม
มีตะกร้ากับตะขอสำหรับแขวนเสื้อผ้าให้ด้วย
ในห้องอาบน้ำมีฝักบัวพร้อมน้ำอุ่น ห้องแคบมาก แขนเราฟาดไปโดนผนังตลอด
แล้วมันเหมือนเป็นกล่องพลาสติกกลวงๆอะ เพราะงั้นเวลาชนเสียงมันเลยดัง
โซนแต่งตัวค่ะ มีที่นั่ง กระจกบานใหญ่ และไดร์เป่าผมให้ อีกฝั่งนึงจะมีชั้นวางพวกหวี ทิชชู่ คอตตอนบัด
ข้อเสียของที่นี่ที่รับไม่ค่อยได้คือฮีทเตอร์ คือมันไม่อุ่น กระจายความอุ่นไม่ทั่วถึง แล้วเราไปช่วงหน้าหนาว คือทรมานมากกกกกก นี่ขนาดเปิดแรงสุดแล้ว เวลาต้องการความอบอุ่นยังต้องมายืนจ่ออะ จ่อสักพักใหญ่ๆด้วย เตียงบนพอไหว แต่เตียงล่างหนาวมากกกก เพื่อนบอกหนาวจนแทบแข็ง
แผ่นแจ้งรายละเอียดต่างๆที่จำเป็นต่อการเข้าพักค่ะ เช่น เวลาเช็คเอาท์
แผ่นอธิบายปุ่มบนรีโมทเป็นภาษาอังกฤษค่ะ เพราะปุ่มรีโมทที่นี่เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งนั้นเลย
แล้วก็ที่ชั้นล่างมีร้านทาโกะยากิ เห็นเขาว่าอร่อย ร้านจะเปิดเย็นๆ ขายช่วงกลางคืน จะกินก่อนอาหารก็กลัวกินข้าวไม่ลง จะกินหลังอาหารก็อิ่มซะก่อน สุดท้ายเลยไม่ได้ลอง ตอนกลางคืนออกมาจากห้องพักชั้น 4 หรือ 5 เนี่ยแหละ กลิ่นทาโกะจะตลบอบอวลไปหมด แต่กลิ่นไม่เข้าห้องเลยนะ
เคาน์เตอร์เช็คอินอยู่ชั้นสอง และไม่มีลิฟท์ขึ้นไปเพราะติดร้านทาโกะ ถ้าเอากระเป๋าลากใบใหญ่ๆไปก็ลำบากหน่อย ถ้าขึ้นชั้น 2 ได้แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้นที่พักได้เลยค่ะ
ที่นี่ไม่มีบริการส่งกระเป๋านะคะ เรากับเพื่อนกะว่าจะส่งกระเป๋าใบใหญ่ของเพื่อนไปโรงแรมที่โตเกียวกันค่ะ จะได้สบายตัวขึ้นหน่อย แล้วแบ่งเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นมาไว้ในกระเป๋าใบเล็กของเราตอนไปทาคายาม่า ส่วนเราก็ส่งของที่ไม่จำเป็นไปกับกระเป๋าเพื่อน แต่ปรากฏว่าที่นี่ไม่รับส่งกระเป๋า เราต้องไปส่งกันเอง โดยสามารถส่งที่ร้านสะดวกซื้อได้ แต่พอไปร้านก็ส่งไม่ได้อยู่ดี เพราะต้องมีที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของญี่ปุ่นค่ะ สุดท้ายเลยต้องลากกระเป๋าใบใหญ่ของเพื่อนไปที่ทาคายาม่าด้วย
TBC.
แล้วก็ที่ชั้นล่างมีร้านทาโกะยากิ เห็นเขาว่าอร่อย ร้านจะเปิดเย็นๆ ขายช่วงกลางคืน จะกินก่อนอาหารก็กลัวกินข้าวไม่ลง จะกินหลังอาหารก็อิ่มซะก่อน สุดท้ายเลยไม่ได้ลอง ตอนกลางคืนออกมาจากห้องพักชั้น 4 หรือ 5 เนี่ยแหละ กลิ่นทาโกะจะตลบอบอวลไปหมด แต่กลิ่นไม่เข้าห้องเลยนะ
เคาน์เตอร์เช็คอินอยู่ชั้นสอง และไม่มีลิฟท์ขึ้นไปเพราะติดร้านทาโกะ ถ้าเอากระเป๋าลากใบใหญ่ๆไปก็ลำบากหน่อย ถ้าขึ้นชั้น 2 ได้แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้นที่พักได้เลยค่ะ
ที่นี่ไม่มีบริการส่งกระเป๋านะคะ เรากับเพื่อนกะว่าจะส่งกระเป๋าใบใหญ่ของเพื่อนไปโรงแรมที่โตเกียวกันค่ะ จะได้สบายตัวขึ้นหน่อย แล้วแบ่งเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นมาไว้ในกระเป๋าใบเล็กของเราตอนไปทาคายาม่า ส่วนเราก็ส่งของที่ไม่จำเป็นไปกับกระเป๋าเพื่อน แต่ปรากฏว่าที่นี่ไม่รับส่งกระเป๋า เราต้องไปส่งกันเอง โดยสามารถส่งที่ร้านสะดวกซื้อได้ แต่พอไปร้านก็ส่งไม่ได้อยู่ดี เพราะต้องมีที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของญี่ปุ่นค่ะ สุดท้ายเลยต้องลากกระเป๋าใบใหญ่ของเพื่อนไปที่ทาคายาม่าด้วย
TBC.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น