ใช่ค่ะ นากะเมกุโระอีกรอบค่ะ คุณอ่านไม่ผิดหรอก เนื่องจากเมื่อวานมิชชั่นไม่คอมพลีท เลยต้องไปเก็บอีกรอบ สำหรับวันที่ 6 นี้อากาศแย่มาก ฝนตกทั้งวัน แต่ฝนบ้านเขาจะตกปรอยๆเป็นละออง ไม่ได้ตกหนักฟ้าถล่มดินทลายแบบบ้านเรา แต่มันน่ารำคาญตรงที่มันตกทั้งวันทั้งคืนนี่แหละค่ะ
และอย่าลืมว่าเราไปกันช่วงฤดูหนาว พยากรณ์อากาศวันนี้บอกว่าจะมีทั้งฝนและหิมะ และแน่นอนว่าหิมะตกลงมาเจอฝน มันจะกลายเป็นฝน มันไม่มีทางพาฝนให้กลายเป็นหิมะไปด้วยกันหรอก เรียกได้ว่าเป็นวันที่แย่มาก ฝนตกปรอยๆทั้งวันทั้งคืนจนเที่ยวไม่สนุก แล้วเรารู้สึกว่าเมืองที่ปกติไม่ค่อยมีหิมะ แล้วหิมะพยายามจะตก (เช่น โตเกียวและนาโกย่า) จะหนาวทรมานมาก มันหนาวแสบ หนาวทะลุทะลวงไปถึงกระดูกดำอะ มันไม่ได้หนาวแบบอุนนุนละมุนละไมแบบเมืองหิมะอะ
โอเค วันสุดท้ายของการเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงเช้าไปจัดการภารกิจติ่งให้เสร็จก่อน นึกอะไรไม่ออกซื้อ Tokunai Pass ไว้ก่อน คุ้มไม่คุ้มค่อยว่ากันอีกที แต่ดูเหมือนจะคุ้มนะ ไม่แน่ใจว่าใช้อิท่าไหนแต่ใช้จนคุ้มได้อะ
แม่น้ำเมกุโระวันนี้ มีน้องเป็ดมาว่ายน้ำเล่นด้วย อืมมมมม ขนเป็ดคงอุ่นจริงๆหละนะ
กลับไป EXILE TRIBE STATION อีกครั้ง แต่ดูเหมือนจะมาเร็วไป ร้านเพิ่งเปิด ซึ่งจริงๆตอนนั้นก็เที่ยงแล้ว ร้านค้าที่ญี่ปุ่นเปิดช้าจริงๆ แล้วมีการแจกบัตรคิวด้วย นี่ก็อะไรวะ ปล่อยไปก่อนละกัน เดินเล่นรอไปก่อน
ดอกอะไรก็ไม่รู้ เจอระหว่างเดินเล่นแถวนากะเมกุโระ มีอยู่ต้นเดียวด้วย เห็นดอกเล็กๆ สีชมพูๆ คล้ายซากุระเลยถ่ายมา
วนกลับมาอีกทีตอนบ่ายๆ ไม่มีแจกบัตรคิวแล้ว ในที่สุดก็ได้สิ่งที่ต้องการมาสักที ถึงเราจะช็อปไม่หนัก แต่แค่ 2 ชิ้นนี้แบงค์หมื่นเยนก็บินไปแล้วจ้าาาาา T-T
โอเค มิชชั่นคอมพลีท กลับโรงแรมไปเก็บของก่อน จะได้ไปเที่ยวต่อแบบสบายตัวหน่อย กลับไปเริ่มหิว มีแซนด์วิชที่ซื้อมาจากสถานีรถไฟตั้งแต่เย็นวานแช่อยู่ในตู้เย็น เลยเอามากินซะเลย
แซนด์วิชกุ้งทอดกับหน่อไม้ฝรั่ง 367 เยน อร่อย เนื้อเน้นๆ อยากให้ไทยมีอย่างงี้มั่ง แต่คงขายกันเป็นร้อยแน่ๆ จริงๆราคานี้แปลงเป็นเงินไทยก็เป็นร้อยนะคะ แต่ด้วยเรทบ้านเขา เรารู้สึกว่านี่คือราคาปกติของแซนด์วิช แต่ถ้ามาขายที่ไทยด้วยราคานี้คือโคตรแพง
เก็บของ พักผ่อน เติมพลังที่โรงแรมเสร็จแล้ว ก็ไปลุยกันต่อที่โอไดบะ ไปทั้งที่ฝนตกนี่แหละ หึหึ เริ่มจากนั่งรถไฟ JR สาย Keihin-Tohoku ไปลงที่สถานี Shimbashi เพื่อต่อ Yurikamome ไปยังโอไดบะ แต่...
มาเที่ยวทั้งที ต้องลองอะไรให้มันหลากหลายค่ะ ถึงจะเสียตังค์แพงขึ้นอีกก็เหอะ เราเลยนั่ง Yurikamome ไปลงท่าเรือฮิโนเดะ(Hinode) ค่ารถ 250 เยน สำหรับยูริคาโมเมะนี้ เป็นรถไฟฟ้าเอกชนแบบไม่มีคนขับค่ะ เป็นรถที่จะพาคนจากฝั่งโตเกียวไปยังโอไดบะ
ยูริคาโมเมะก็มี 1-Day Pass เหมือนกันนะคะ ราคา 820 เยน ถ้าใครคิดจะไปสำรวจโอไดบะแบบทั่วถึงก็น่าสนใจอยู่ค่ะ แต่ถ้าจะไปขลุกอยู่แค่โซนเดียวก็ไม่คุ้ม กดตู้เป็นรอบๆเอาดีกว่า
จริงอยู่ที่ยูริคาโมเมะสามารถพาเราไปโอไดบะได้เลย แต่เราอยากลองนั่งเรือข้ามฟากไปน่ะค่ะ จริงๆอยากนั่งวัตถุประหลาดอย่างโฮตาลูน่ามากกว่า แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง ดูเหมือนว่าเรือโฮตาลูน่าจะไม่มีให้บริการในวันที่ไป เลยต้องนั่งเรือธรรมดาแทน แต่ราคาตั๋วก็ถูกกว่านะคะ
เรือ Hotaluna
ภาพจาก Tokyo Cruise
ตู้กดตั๋ว
ค่าตั๋วเที่ยวเดียวจากฮิโนเดะไปลงที่ท่าเรือไดบะคนละ 480 เยน
ระหว่างรอเรือมารับก็สำรวจท่าเรือไปพลางๆก่อน
ทางเข้าอาคารผู้โตยสาร
ลานจอดรถ มีทั้งรถของบริษัททัวร์และรถบัสนำเที่ยว
ยูริคาโมเมะผ่านมาพอดี
มาดูด้านในอาคารผู้โดยสารกันมั่งดีกว่า
ออกไปดูบริเวณท่าเรือกันบ้าง
ท่าเรือว่างๆ ร้างผู้คน เมื่อเรือยังไม่มีวี่แววว่าจะมา
นักท่องเที่ยวจีนเยอะทีเดียวค่ะ
แอบส่องท่าข้างๆ เรืออะไร ควันโขมงเชียว
เห็นสะพานสายรุ้งอยู่ไกลๆ
อ๊ะ! เรือมาแล้ว
เดินไปขึ้นเรือ
เรือที่เรานั่งนี้มีชื่อว่า Jubilee ค่ะ
ภาพคุณจูบิลี่จากเว็บของ Tokyo Cruise
เรือจะมี 2 ชั้นค่ะ ชั้นบนเป็นที่นั่งเรียงๆกันธรรมดาแบบเรือบ้านเรา ขอจิ๊กรูปมาจากเว็บ Official เลยละกันนะคะ พอดีไม่ได้ถ่ายรูปมา
แปลนที่นั่งชั้นบน
ที่นั่งชั้นบน
แปลนที่นั่งชั้นล่าง
ที่นั่งชั้นล่าง
พอได้ขึ้นเรือ เหล่านักท่องเที่ยวจีนก็กรูกันขึ้นไปชั้นบนเลย เราเลยลงมานั่งข้างล่างที่ดูน่าจะสบายกว่า สบายจริงค่ะ คนส่วนใหญ่จะขึ้นไปอยู่ข้างบนกันหมด ข้างล่างยังนั่งกันไม่ครบทุกโต๊ะเลยด้วยซ้ำ แล้วมันเป็นที่นั่งแบบหันหน้าเข้าหากันโดยมีโต๊ะอยู่ตรงกลาง โซฟาตัวใหญ่มาก นั่งได้ตัวละ 4 คน ตกโต๊ะละ 8 คน แล้วทุกโต๊ะคือจะนั่งกันแค่กลุ่มของตัวเองที่มีแค่ 2-4 คนเท่านั้น แล้วมันไม่เต็ม เพราะงั้นแต่ละกลุ่มเลยได้พื้นที่ส่วนตัวของตัวเองไปเลย
เริ่มออกเดินทางได้ บรรยากาศอึมครึมมาก ฝนก็ยังคงตกปรอยๆอยู่อย่างต่อเนื่อง
เดี๋ยวเราจะลอดใต้สะพานนี้กัน
ถึงแล้ว ท่าเรือไดบะ
คุณจูบิลี่กับสะพานสายรุ้ง (อย่าถามว่าทำไมต้องคุณ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน 5555)
วิวสะพานสายรุ้งและเมืองโตเกียวไกลๆจากท่าเรือ
ทางเดินยาวไกลที่มีฝนรออยู่
ตึก Fuji TV ตอนกลางคืนตรงจุดชมวิวกลมๆนั่นจะเปิดไฟเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ
ไปถึงก็ทำอะไรได้ไม่มาก ได้แต่เดินเล่นในอาคารเพราะฝนตก
มื้อเย็นที่ Food Court ของ Aqua City Odaiba
Osaka Yakisoba 529 เยน
ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเปรี้ยวไปหน่อย หรือคนญี่ปุ่นชอบรสแบบนี้
ฟู้ดคอร์ทที่นี่ไม่ต้องซื้อคูปองแบบของไทยนะคะ เดินเข้าไปสั่งและจ่ายเงินสดได้เลย ที่ฟู้ดคอร์ทมีตู้กดน้ำเปล่าฟรีให้ กินเสร็จให้เอาภาชนะไปคืนที่ร้านที่คุณซื้อมา เขาจะมีช่องสำหรับคืนภาชนะให้ เอาไปคืนทั้งถาดนั่นแหละค่ะ
สะพานสายรุ้งอีกสักรูป ตอนนี้ฟ้ามืดดีแล้ว
ในเมื่อไปไหนไม่ได้เพราะติดฝน เราก็นั่งยูริคาโมเมะเล่นซะเลย นั่งไปจนสุดสายแล้วนั่งกลับ ส่วนตัวรู้สึกว่าโอไดบะก็...ไม่มีอะไรอะ
ด้านในยูริคาโมเมะ ช่วงหัวและท้ายขบวนจะมีที่นั่งชมวิวให้
วิวจากที่นั่งชมวิว
เสร็จแล้วก็นั่งยูริคาโมเมะกลับมา Shimbashi เลย เพื่อต่อรถไฟ JR กลับที่พัก
ปิดทริปวันนี้ด้วยกาชาปองเนียนโกะเซนเซย์จากเรื่อง Natsume Yuujinchou เจอที่สถานี Shimbashi (ไม่แน่ใจว่าของ Yurikamome หรือของ JR) เลยจัดมาสักลูกนึง
TBC.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น