วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Summer in Japan Part 3.4 : Namba Parks / Glico Sign / Dotonbori

กลับมานัมบะกันอีกรอบค่ะ มาหาอะไรกินเหมือนเดิม เนื่องจากเรากับเพื่อนแยกกันเที่ยวตลอดทริป เลยคิดว่าควรจะมีกิจกรรมร่วมกันบ้าง อย่างน้อยไปกินข้าวเย็นด้วยกันก็ยังดี เพราะเพื่อนเราไปไกลและกลับช้า เลยนัดกันที่นัมบะประมาณ 2 ทุ่มค่ะ ส่วนตัวเราที่กลับจากเอ็กซ์โปพาร์คมาก่อนเวลานัดประมาณ 1 ชม. ก็แวะกลับไปชาร์จแบตให้ตัวเองกับมือถือที่โรงแรมก่อน แล้วค่อยออกไปอีกทีตอน 2 ทุ่ม


มาถึงสถานีนัมบะตอน 2 ทุ่ม เพื่อนก็ยังกลับมาไม่ถึง เลยไปเดินเล่นนัมบะพาร์ครอไปก่อนค่ะ นัมบะพาร์ค (Namba Parks) คือพื้นที่สำนักงานและแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ อยู่ติดกับสถานีรถไฟนันไคนัมบะ ประกอบด้วยโซนร้านค้าสำหรับช็อปปิ้ง ร้านอาหาร ตึก Parks Tower ที่เป็นอาคารสำนักงานสูง 30 ชั้น และสวนบนตึก Parks Garden ที่ไล่เรื่อยจากชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 9






จริงๆ ตอนที่ไปเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนัมบะพาร์คเลย ไม่รู้ว่ามีด้วยซ้ำ ออกจากสถานีรถไฟมาแล้วเจอ ประกอบกับเพื่อนยังไม่มา เลยลองเข้าไปเดินดู มาถึงชั้น 2 เห็นข้างนอกมีจัดต้นไม้ จัดไฟสวยๆ เลยออกไปดู แล้วก็เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่แน่ใจว่าขึ้นสุดรึเปล่า


ตอนที่ไปก็มืดแล้ว เลยไม่รู้ว่าสวนใหญ่แค่ไหน มีอะไรบ้าง เพราะมันมืดไปหมด เราไม่กล้าเข้าไป เลยเดินไปตามทางเดินที่เปิดไฟไว้เท่านั้น


มองออกไป เห็นสถานีรถไฟด้วย


วิวโรงแรม Swissotel Nankai Osaka จาก Parks Garden ไม่แน่ใจว่าชั้นอะไร คิดว่าเดินขึ้นมาจนสุด แต่ไม่แน่ใจว่าสุดจริงๆ หรือแค่เกือบสุด


อาคารสำนักงาน Parks Tower





ประมาณ 3 ทุ่ม เพื่อนเราก็มาถึง เราเลยออกจากนัมบะพาร์คไปรอนางข้างหน้า แล้วเดินหาอะไรกินกัน จนไปเจอร้านหยอดตู้ (อีกแล้ว 5555 ทริปก่อนก็ฝากท้องกับร้านหยอดตู้อย่างเงี้ย)


สำหรับร้านอาหาร เดี๋ยวมารีวิวรวบยอดทีเดียวใน Part 4 ละกันนะคะ เพราะกินร้านเดิมทั้ง 2 วันเลย





กินเสร็จ 4 ทุ่มกว่าๆ ออกไปเดินเที่ยวกันต่อค่ะ มาโอซาก้าก็ต้องป้ายกูลิโกะสินะคะ




มีเปลี่ยนฉากหลังให้นักวิ่งด้วย อันนี้เป็นโอเปร่าเฮ้าส์ แลนด์มาร์คของออสเตรเลีย


สิงห์พ่นน้ำ เมอร์ไลออน ของสิงคโปร์


กำแพงเมืองจีน

จริงๆ มีของไทยด้วยนะคะ เหมือนจะเป็นวัดพระแก้วมั้ง แต่ทำไมไม่มีรูปก็ไม่รู้ สงสัยถ่ายไม่ทัน หรืออาจจะถ่ายทันแต่ไม่สวยเลยลบไป แล้วมันก็ไม่ขึ้นมาให้ถ่ายอีกเลย T-T



ใกล้ๆ กับป้ายกูลิโกะคือคลองโดทงโบริค่ะ ช่วงที่เราไปมีงานประดับไฟที่โดทงโบริพอดี





มันก็สวยดีนะคะ แต่คงต้องยอมรับตรงๆว่า มันไม่ว้าวอะค่ะ ดูโล่งๆ ธรรมดาไปหน่อย นึกว่าจะอลังกว่านี้ซะอีก


แถวป้ายกูลิโกะตอนกลางคืนดูวูบวาบ คึกคักมากค่ะ เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น กลุ่มคนทำงานที่มาสังสรรค์หลังเลิกงาน กลุ่มวัยรุ่นที่ให้ความรู้สึกเหมือนเด็กแว๊นหรือสก๊อย กลุ่มชายหนุ่มที่ให้ความรู้สึกเหมือนโฮสต์มาดักล่าเหยื่อ บางทีก็แอบน่ากลัวเบาๆค่ะ เราเลยหนีไปนั่งเล่นอีกฝั่งนึงซึ่งเงียบสงบกว่า นั่งกันจน 5 ทุ่มกว่าก็รีบกลับเพราะกลัวรถไฟหมด ไม่แน่ใจว่าหมดกี่โมงนะคะ แต่เราไปถึงสถานีรถไฟประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง เหมือนจะได้ขึ้นรถขบวนสุดท้ายพอดีเลยอะค่ะ


สำหรับการเดินทางโซนนี้ ลงรถไฟที่สถานีนัมบะ เปิด Google Map แล้วเดินตามเลยค่ะ นัมบะเป็นย่านการค้าขนาดใหญ่ของโอซาก้า เพราะงั้นเลยมีรถไฟผ่านหลายสาย ทั้งของ JR และเอกชนค่ะ





ปิดท้ายด้วยน้องไข่ย้วยกุเดะทามะ เป็นตัวเกาะแก้วที่เราไปหมุนกาชาปองได้มาจากนัมบะค่ะ ได้ตัวที่อยากได้ด้วย ลัคกี้~





ทริปวันแรกก็จบลงเท่านี้แหละค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปลุยกันต่อในพาร์ทต่อไป แพลนแน่นไม่แพ้กัน

つづく








ฝากบล็อกคุณเพื่อนค่ะ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าเรากับเพื่อนแยกกันเที่ยว เราก็เที่ยวอย่างที่เห็น ส่วนเพื่อนเราไปเที่ยวตามรอยอนิเมะเรื่อง 'Free! วุ่นรักหนุ่มว่ายน้ำ(?)' ที่ดูเหมือนสถานที่ในเรื่องจะมีต้นแบบมาจากแถบนี้ค่ะ ใครสนใจก็ไปตามกันได้ http://sukukazu.blogspot.com/2015/11/2d-part2-free.html









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น