เริ่มต้นที่สถานี JR ชินอิมามิยะ (JR Shin-Imamiya) ที่อยู่รวมๆกับนันไค ซื้อตั๋วไปสถานีโอซาก้าก่อน ราคา 180 เยน ใน Google Map บอกให้ขึ้น Osaka Loop Line ไป แต่เอาเข้าจริง รถที่มาดันเป็น Yamatoji Rapid Service ขึ้นได้เหมือนกันค่ะ เราก็ขึ้นขบวนนี้ไป
ประมาณ 20 นาทีก็ถึงสถานีโอซาก้า เดินตามป้ายบอกทางไปชานชาลารถที่ไปเกียวโต และเราพบว่ามันเป็นช่อง Transfer มันไม่มีตู้กดตั๋ว เราต้องกดตั๋วไปเกียวโตราคา 920 เยนมาจากชินอิมามิยะเลย เลยเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกให้ขึ้นไปก่อน แล้วไปจ่ายเงินที่เหลือปลายทาง พร้อมกับบอกหมายเลขชานชาลาให้ เราก็เดินผ่านช่องเจ้าหน้าที่ไปเลย
ไปถึงชานชาลาที่บอก ประกาศรถไฟขบวนต่อไปกำลังเข้ามาพอดี ไม่มีคำว่าเกียวโตเลย มีแต่คำว่าไมบาระ พระเจ้า! ไมบาระคืออะไร มันอยู่ส่วนไหนของโลก ด้วยความไม่แน่ใจ เลยปล่อยไปก่อน ไม่กล้าขึ้น
หลังจากรถไฟไปไมบาระขบวนแรกผ่านไปไม่กี่อึดใจ ขบวนใหม่ก็เข้ามา ไปไมบาระเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรอบนี้เหมือนจะได้ยินเสียงประกาศคำว่าเกียวโตด้วย ที่ป้ายบอกเส้นทางที่ตัวรถยังคงไม่มีคำว่าเกียวโต แต่เราว่าเราได้ยินคำนี้ในเสียงประกาศนะ คนก็ขึ้นเยอะด้วย ขบวนที่แล้วก็เยอะ เลยคิดว่าขึ้นๆไปเหอะ บางทีไมบาระอาจจะอยู่เลยเกียวโตออกไป แล้วรถมันไปสุดที่ไมบาระ ถ้าขึ้นผิดค่อยว่ากันอีกที ขึ้นไปมีเวลาได้นั่งเช็คข้อมูล เลยได้รู้ว่าไมบาระอยู่เลยเกียวโตออกไปจริงๆ และรถที่ไปไมบาระพวกนี้ก็จะจอดรับส่งคนที่สถานีเกียวโตด้วย
มุ่งหน้าสู่เกียวโต รถไฟที่เราขึ้นนี้ เป็น JR Rapid Service ค่ะ แต่ถ้าใครมี JR Pass แนะนำให้ขึ้นชิงกันเซ็นไปเลยค่ะ รถนี้จะแวะที่ชินโอซาก้า ทาคาสึกิ (Takatsuki) และวิ่งยาวไปเกียวโตเลย จากโอซาก้าไปเกียวโต ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตอนออกจากระบบรถไฟ เนื่องจากตั๋วเราจ่ายเงินไม่ครบ จะไม่สามารถออกทางช่องตรวจตั๋วปกติได้ ให้ไปช่องที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ เอาตั๋วให้เขาดู เขาจะคิดเงินมา เราก็จ่ายเขาไป จบ. ไปต่อ
เพราะเรามาถึงเกียวโตตอนเที่ยงพอดี เลยคิดว่าน่าจะแวะไปตลาดนิชิกิก่อน เขาบอกว่าตลาดนิชิกิเป็นตลาดขนาดใหญ่ของเกียวโต และมีโซนตลาดสดด้วย เราคิดว่าที่นั่นน่าจะมีร้านอาหารอยู่บ้างเหมือนกัน น่าจะหาอะไรกินง่ายหน่อย
จากสถานีเกียวโต ขึ้นรถไฟใต้ดินคาราสึมะ (Karasuma) ไปลงที่สถานีชิโจ (Shijo) ค่ารถ 210 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที
ออกมาจากใต้ดินก็จะเจออะไรประมาณนี้...
เต็มไปด้วยตึกสำนักงาน ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ดูมีระดับด้วย
แล้วสภาพเราตอนนั้นคือยาจกมาก โอยยยย นี่ฉันมาผิดที่รึเปล่า แต่เปิด Map
ดูก็ถูกแล้ว จะไปตลาดนิชิกิต้องเดินไปอีกหน่อย มันจะอยู่ในซอยไหนสักซอย
แอบหลงทางด้วย ขนาดเปิดตัวนำทางแล้ว ก็ยังงงๆว่าตกลงอยู่ซอยไหนกันแน่
ในที่สุดก็มาถึง ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market)
ด้านในของตลาดเหมือนกับย่านช็อปปิ้งทั่วไปของญี่ปุ่น เป็นทางเดินแบบเปิด
มีหลังคา สองข้างทางเป็นอาคารร้านค้าสูง 2 ชั้น วันนี้แดดแรง อากาศร้อน
เดินในนี้แล้วก็ยังรู้สึกได้ถึงความร้อน เล่นเอาเหงื่อออกได้เหมือนกัน
ที่ตลาดนี้มีโซนตลาดสดที่ขายวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารด้วย
ดูสะอาดกว่าตลาดสดบ้านเราเยอะจริงๆค่ะ
แต่เราก็แค่เดินเข้าไปดูให้รู้ว่าเป็นยังไง ไม่ได้ซื้ออะไรมาหรอกค่ะ
ออกมาจากโซนตลาดสด ก็เป็นโซนช็อปปิ้งทั่วไปแล้ว เป็นร้านค้าทั่วไป
ขายเครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง มีร้านอาหารอยู่ประปราย
ช่วงนั้นเรากำลังเสพติดหมี่เย็นค่ะ
แล้วก็ดันไปตรงกับช่วงฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นพอดี
เลยคิดว่าจะต้องลองกินโซบะเย็นที่ญี่ปุ่นให้ได้
เดินๆ
ไปเจอร้านนึง เป็นห้องกระจกทึบๆหน่อย ดูดีทีเดียวค่ะ
เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปหน้าร้านมา ที่หน้าร้านมีเมนูโซบะเย็น หรือ Zaru Soba
ติดอยู่ด้วย ราคาประมาณ 700 เยน มีเศษรึเปล่าไม่แน่ใจ แต่มั่นใจว่าเป็นเลข 7
แน่ๆ เลยเข้าไปลองดู คนดูแลร้านตอนนั้นมีแค่คุณลุงกับคุณป้าสองคน
คุณลุงเป็นคนทำอาหาร คุณป้าคอยต้อนรับลูกค้า
มีความรู้สึกว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แน่ๆ โอเคค่ะ ภาษามือ
จิ้มๆเมนูเอาก็จบแล้ว
แต่!!!.....
โซบะเย็น เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปเย็นที่ใช้ทานคู่กัน ต้นหอมญี่ปุ่นซอย และวาซาบิค่ะ บนเส้นโซบะโรยสาหร่ายมาให้ด้วย ดูเป็นสาหร่ายแผ่นที่ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ
รสชาติถือว่าใช้ได้ทีเดียวค่ะ ส่วนตัวแอบชอบรสชาติของฮะจิบังไทยแลนด์มากกว่า
(แต่ของฮะจิบังเป็นเส้นราเมงนะ) สำหรับเมนูที่เป็นเส้นโซบะถือว่าทำได้ดีค่ะ
เราเคยกินซารุโซบะที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยเจ้านึง คือแย่มาก
แย่ระดับที่เอาเข้าปากแล้วอยากคายทิ้ง
แต่ด้วยความเสียดายเลยต้องแค่นกินจนหมด โชคดีที่ราคาไม่แพงนัก และให้มาน้อย
เลยไม่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนกันมากนัก
กินเสร็จ รีบจ่ายตังค์ รีบออกค่ะ เกือบกินไม่หมดเหมือนกัน เพราะมันเยอะมาก
(สำหรับเรา) แต่ไม่แน่ใจว่าคนญี่ปุ่นเขาถือเรื่องกินไม่หมดรึเปล่า
เลยคิดว่าทนๆยัดให้หมดไปดีกว่า ไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดีกับเรา
ยอมรับว่าอยู่ในร้านเราเกร็งระดับนึงเลยแหละ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีนะ
แต่มันเหมือนคนไทยเวลากลัวชาวต่างชาติอะ ไม่คุ้นเคย พูดอังกฤษไม่ได้
ไม่รู้จะรับมือยังไง เลยพาลไม่ค่อยอยากรับซะงั้น
ด้วยความเกร็ง เลยไม่ได้เก็บรายละเอียดมาเท่าไหร่ ไม่รู้แม้แต่ชื่อร้าน
ระบุพิกัดไม่ได้ด้วย เพราะเดินมั่วๆไปแล้วบังเอิญเจอ
แต่ก็อยู่ในตลาดนิชิกินั่นแหละค่ะ
หลังจากเติมพลังแล้ว ก็ได้เวลาออกเที่ยวค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไป...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น