วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Bangkok Airways Blue Ribbon Screens

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวโรงบางกอกแอร์เวย์ที่พารากอนกันนะคะ เรื่องของเรื่องคือไปร่วมกิจกรรมที่เพจ Twinings แล้วได้รางวัลเป็น Gift Voucher ดูหนังที่โรง Bangkok Airways Blue Ribbon Screens สำหรับ 2 คนมาค่ะ




ตั๋วปกติจะขายเป็นคู่ ราคาคู่ละ 2,000 บาท แต่เหมือนจะเคยเห็นมาว่าถ้าซื้อที่เดียว จะขายที่ละ 1,000 บาท อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ ถ้าใครคิดจะซื้อตั๋วแบบที่เดียวก็ลองสอบถามทางโรงภาพยนตร์ดูก่อนละกันค่ะ


ตำแหน่งโรงจะอยู่ที่ชั้น 5 ของสยามพารากอน ใกล้ๆ กับสตาร์บัคส์ เราเลือกดู Alice Through the Looking Glass กันค่ะ


ที่โรงบางกอกแอร์เวย์นี้จะมีทั้งหมด 3 โรงค่ะ โรง 1 และเลานจ์อยู่ทางซ้าย ตรงไปฝั่งขวามือคือโรง 2 และ 3 ตรงข้ามโรง 3 เป็นห้องน้ำ ส่วนฝั่งขวาข้างๆ โรง 2 เป็นห้องนวดค่ะ


มาถึงก็ได้เวลาหนังฉายพอดี หาคนฉีกตั๋วหน้าทางเข้าไม่เจอ เลยลองเข้าไปในเลานจ์ดู สรุปว่าพนักงานอยู่ในนั้นค่ะ

ทางเข้าโรง 1 และเป็นทางเข้าเลานจ์ด้วย


บรรยากาศภายในเลานจ์


เข้าไปในเลานจ์ พนักงานก็เชิญเราไปนั่งที่โซฟาก่อน ฉีกตั๋วให้ และนำเมนูอาหารแบบแท็บเล็ตมาให้เราดูค่ะ อันนี้เป็นบริการของทางโรงหนังอยู่แล้วนะคะ ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ มี 3 เซ็ตให้เลือก เลือกได้คนละเซ็ตค่ะ

1. เซ็ตสตาร์บัคส์ เป็นเครื่องดื่มจากสตาร์บัคส์พร้อมขนม 1 ชิ้น ซึ่งก็น่าจะมาจากสตาร์บัคส์เช่นกันค่ะ มีให้เลือก 4 แบบ เพื่อนเราเลือกเซ็ตช็อคโกแลตร้อนกับวาฟเฟิลมาค่ะ
2. เซ็ตไวน์ มีให้เลือกระหว่างไวน์แดงกับไวน์ขาว ทานกับอัลมอนด์ แต่เขาจะไม่เสิร์ฟไวน์ให้ในโรงนะคะ
3. ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าเซ็ตอะไร แต่จะมาจากร้าน BlueCup ที่ตั้งอยู่ถัดจากสตาร์บัคส์ค่ะ มีเมนูแซนด์วิชให้เลือกไม่น่าต่ำกว่า 4 เมนู คู่กับเครื่องดื่ม ที่สามารถเลือกได้ระหว่างน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชา (กาแฟด้วยรึเปล่าไม่แน่ใจ) เราเลือกเป็นครัวซองต์ไส้เบคอน+ไข่ กับน้ำทับทิมค่ะ


เลือกเมนูเสร็จ พนักงานก็แจ้งว่ามีบริการนวดให้ฟรีด้วย คนละ 15 นาที โดยสามารถเลือกได้ระหว่างหัว/คอ/ไหล่ กับเท้าค่ะ เรากับเพื่อนเลยตัดสินใจลองนวดดู พนักงานเลยเอาคูปองนวดมาให้ค่ะ ซึ่งสามารถเก็บไว้นวดหลังดูหนังจบได้


เนื่องจากเรามาถึงตอนหนังเริ่ม พอเลือกอาหารได้แล้วก็เข้าโรงเลยค่ะ และอาจเพราะเป็นช่วงเกือบเที่ยงของวันธรรมดา ทั้งโรงเลยเป็นของเรากับเพื่อนแค่สองคนค่ะ ส่วนอาหารจะตามมาเสิร์ฟให้ในโรงทีหลังนะคะ


ทางเดินไปสู่โรงหนังค่ะ ตรงนี้จะเป็นโรง 2 กับโรง 3 ของเราเป็นโรง 3 อยู่สุดนู่นเลยค่ะ

บนผนังตกแต่งด้วยรูปจากภาพยนตร์เรื่องต่างๆ


ที่นั่งแยกกันเป็นคู่ๆ ค่ะ ถึงจะเป็นคู่ แต่ที่วางแขนที่คั่นตรงกลางก็มีขนาดใหญ่ทีเดียว เบาะเป็นแบบปรับเอนได้ ยกที่พักขาขึ้นมาได้ มีหมอนและผ้าห่มให้ด้วย

จิ๊กรูปมาจากเว็บของเมเจอร์นะคะ


ถึงจะมีแค่เรากับเพื่อนแค่สองคน เราก็ไม่กล้าเปิดแฟลชถ่ายรูปอาหารมาให้ดูอยู่ดีค่ะ แต่แซนด์วิชครัวซองต์ดูใหญ่โตอลังการและอร่อยดีค่ะ


อาาาา การได้นั่งเอนหลัง ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม และกินแซนด์วิชดีๆ ไปพร้อมๆ กับดูหนังนี่มันฟินดีจริงๆ ค่ะ


ดูหนังจบ ออกจากโรงมาก็ไปนวดกันต่อค่ะ แต่คิวไม่ว่าง ต้องรออีกประมาณครึ่งชั่วโมง เราเลยไปนั่งจับโปเกมอนเล่นที่เลานจ์กันไปพลางๆ ก่อนค่ะ




เรากับเพื่อนชอบกลิ่นที่นี่มากค่ะ มันเป็นกลิ่นน้ำมันหอมระเหยหรือน้ำหอมปรับอากาศก็ไม่รู้ เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และไม่ฉุนจนทำให้เวียนหัวเลยค่ะ


กะเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็กลับไปที่ห้องนวดอีกครั้ง คราวนี้คิวว่างแล้วค่ะ เราเลือกนวดเท้า ส่วนเพื่อนเลือกนวดหัว/คอ/ไหล่ค่ะ

เพิ่งเคยนวดครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ แอบเจ็บนิดๆ จั๊กจี้หน่อยๆ แต่โดยรวมแล้วดีเลยค่ะ นวดเสร็จรู้สึกขาเบาสบายขึ้น

ส่วนเพื่อนที่นวดหัว/คอ/ไหล่ ก็บอกว่าเคลิ้มดีค่ะ ถึงจะมีเจ็บบ้างตอนนวดคอและตอนที่ถูกนวดกดที่หัวก็เหอะ

แต่ผ่านไปได้วันนึง เพื่อนบอกว่าที่นวดไปมันระบมและเจ็บ ส่วนเราปกติดีค่ะ


ในส่วนของหนังเรื่อง Alice Through the Looking Glass ส่วนตัวเราว่ามันไม่ถึงกับเดอะเบสท์ แต่ก็สนุกและสวยงามตามท้องเรื่องอะค่ะ ถึงจะไม่ได้ดูภาคแรกมาก่อนก็รู้เรื่อง (มั้งคะ) เพราะถึงเราจะเคยดูภาคแรกมาก่อนก็จริง แต่ก็ลืมไปหมดแล้วค่ะ อลิซสวยและเท่ดี ส่วนข้อคิดที่หนังต้องการสื่อ เราคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของเวลาและการขอโทษน่ะค่ะ


แต่ก่อนเราคิดแค่ว่า เราไปโรงหนังเพื่อดูหนัง เพราะงั้นไม่ต้องเอาอะไรกับมันนักหรอก แต่พอได้ลองมาดูโรงที่มีบริการเต็มรูปแบบอย่างงี้ก็พอจะเข้าใจแล้วค่ะ ว่าทำไมคนมีเงินเขาถึงยอมจ่าย มันสบายกว่ามากจริงๆ เราไม่รู้สึกปวดหัวหลังดูหนังจบเหมือนกับตอนดูโรงธรรมดา มีอาหารอร่อยๆ กินระหว่างดูหนัง มีบริการนวดให้อีก มันคือการจ่ายมากขึ้น เพื่อซื้อความสะดวกสบายอีกระดับให้กับตัวเองค่ะ แต่เนื่องจากเราไม่ใช่คนมีเงินอะไร หลังจากนี้ไปก็กลับไปดูโรงธรรมดาวันพุธเหมือนเดิมค่ะ พบกันใหม่เมื่อฟ้าเป็นใจนะคะ โรงบางกอกแอร์เวย์ที่รัก






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น